เรียกได้ว่าทำลายทุกกฎพยากรณ์อย่างสิ้นเชิง เมื่อไต้ฝุ่นโนรูที่ว่ากันว่าเป็นไต้ฝุ่นที่รุนแรงและเอาแต่ใจที่สุดของปี เพราะจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาและผู้เชี่ยวชาญลองเดาทิศทางการเคลื่อนที่กว่า 13 แบบ โดยตั้งสมมติฐานว่า เมื่อไต้ฝุ่นลูกนี้ขึ้นฝั่งจะอ่อนกำลังลง ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนผ่านแนวเขาได้จนต้องแบ่งเป็นพายุสองลูกย่อมๆ และพยากรณ์เส้นทางที่พายุลูกเล็กทั้งสองลูกจะเคลื่อนผ่านได้ 13 เส้นทาง
แบ่งเป็น เคลื่อนที่ไปทางทะเลญี่ปุ่นตอนเหนือของอำเภอ Hokuriku และเคลื่อนที่ไปทางภูมิภาคคันโตตอนใต้ลงมหาสมุทรแปซิฟิก ดังภาพนี้
ก่อน
ทางการญี่ปุ่นจึงเร่งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังเนื่องจากพายุลูกนี้เคลื่อนตัวช้ามาก จะทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเมืองหลวงอย่างโตเกียวโดนถล่มด้วยพายุฝนแบบนี้ อุตสาหกรรมและธุรกิจบางอย่างของญี่ปุ่นอาจจะหยุดชะงักก็เป็นได้
แต่เมื่อช่วงสายของวันที่ 8 สิงหาคม 2017 ตามเวลาญี่ปุ่น ไต้ฝุ่นลูกนี้ได้เคลื่อนตัวขึ้นเหนือออกทะเลญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งยังอ่อนกำลังลงตามลำดับ จากที่คาดว่าโตเกียวและภูมิภาคคันโตจะมีฝนตกหนัก ตอนนี้ท้องฟ้ากลับแจ่มใสแทน เพราะพายุพากลุ่มเมฆฝนลอยไปทางตอนบนของประเทศ ซึ่งชาวญี่ปุ่นได้แต่ภาวนาไม่ให้พายุลูกนี้เปลี่ยนเส้นทางกลับมาขึ้นฝั่งอีกครั้ง
ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่ามีชาวไทยคนใดได้รับความเสียหายและผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นโนรู แต่ต้องติดตามรายงานข่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะพายุลูกนี้คาดเดาได้ยากจริงๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : SpokeDark.TV