ข้อ 7. "เรียนรู้อธิปไตยของประชา"
ข้อ 7. "เรียนรู้อธิปไตยของประชา"
(ข้อมูลจาก : Google+ ของ คุณเสาวลักษณ์ กัลยา)
ข้อ 7. "เรียนรู้อธิปไตยของประชา" คือค่านิยมหลักคนไทยที่เสนอโดยพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรี....!!!
เพื่อให้เด็กและคนไทย.."เรียนรู้อธิปไตยของประชา"...นั้นน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาชาติและประชาชนโดย คสช.ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเอง
1. นับว่าเป็นการเสนอ.."ค่านิยมหลักคนไทย"..ในข้อ 7 ได้ดีมาก...เพราะปัญหาของประเทศไทยที่แก้ไม่ตกคือ.."ปัญหาความไม่รู้ระบอบประชาธิปไตย"..หรือ.."อธิปไตยของประชาฯ"..หรือ..อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน"(Sovereignty of the people) หรือมีความเห็นผิด มิจฉาทิฎฐิว่า.."ระบอบเผด็จการรัฐสภา(อำนาจอธิปไตยของคนส่วนน้อย)..เป็น..ระบอบประชาธิปไตย(อำนาจอธิปไตยของปวงชน) จึงเป็นการเสนอปัญหาได้ถูกต้อง คือ แก้ปัญหาความคิด หรือแก้ปัญหาความเห็นของคนไทย นั่นเอง
2. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธาน คสช.และนายกรัฐมนตรี...ในฐานะเป็นผู้เสนอค่านิยาหลักคนไทย..โดยเฉพาะอย่างยิ่ง.."ข้อ 7 เรียนรู้ อธิปไตยของประชา" จะต้องแน่ใจก่อนว่าท่านเองและคณะ คสช.และรัฐบาล...ได้เรียนรู้.."อธิปไตยของประชา"..ได้ถูกต้องแล้วหรือยัง...??? ดังต่อไปนี้...
2.1...ถ้ารู้อธิปไตยของประชา...ก็จะต้องรู้ว่า..."ขณะนี้อธิปไตยเป็นของคนส่วนน้อย..ไม่ได้มีอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนแต่อย่างใดทั้งสิ้น"
2.2...อำนาจอธิปไตยเป็นของคนส่วนน้อยปัจจุบัน..คือ..ระบอบเผด็จการรัฐสภา(Dictatorial Regime) อันเป็นมรรควิธีของการปกครอง(Method of Government)ของคนส่วนน้อย แต่อำนาจธิปไตยเป็นของปวงชน..คือ..ระบอบประชาธิปไตย(Democratic Regime) อันเป็นมรรควิธีการปกครองของประชาชน
3. อำนาจอธิปไตยของคนส่วนน้อย..หรือ..ระบอบเผด็จการ อันเป็นมรรควิธีการปกครองของคนส่วนน้อย...มีรูปธรรมดังนี้คือ...
- มีรัฐสภาที่ประกอบด้วยผู้แทนที่มีลักษณะเป็น.."ผู้แทนของคนส่วนน้อย" มาจากสาขาอาชีพของคนส่วนน้อย เช่น นายทุนพ่อค้านักธุรกิจ หรือทหารตำรวจ หรือคนร่ำรวยได้เปรียบในสังคม ทั้งสิ้น...และรักษาผลประโยชน์ของคนส่วนน้อย...ไม่รักษาผลประโยชน์ของปวงชนคนทั้งประเทศ
- มีรัฐบาลที่มีนโยบายรักษาผลประโยชน์แต่ของคนส่วนน้อยที่ร่ำรวยได้เปรียบในสังคมที่ยึดกุมอำนาจอธิปไตยอยู่ ทำตามความต้องการของคนส่ีวนนน้อย ไม่ทำตามความต้องการของประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง
- มีพรรคการเมืองของคนส่วนน้อยที่ร่ำรวยได้เปรียบในสังคมเป็นพรรคปกครอง(Ruling Party)เท่านั้้น ไม่มีพรรคของประชาชนขึ้นปกครองประเทศแต่อย่างใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพรรคตามกฎหมาย หรือพรรคตามธรรมชาติ มาตรการสร้างและรักษาพรรคการเมืองของคนส่วนน้อยคือ..."ออกกฎหมายพรรคการเมือง...เข้าควบคุมพรรคอย่างเด็ดขาดสิ้นเชิง"...ไม่ปล่อยให้พรรคการเมืองเกิดขึ้นและเติบโตตามธรรมชาติอย่า่งอิสระ เช่น พรรคประชาธิปไตยทั่วโลก
- มีม็อบหรือมวลชนเผด็จการ...เพื่อรักษาอำนาจของคนส่วนน้อยหรือรักษาระบอบเผด็จการ...คือ..เคลื่อนไหวรักษาระบอบเผด็จการ...ไม่เคลื่อนไหวเปลี่ยนระบอบ หรือยกเลิกระบอบเผด็จการ สร้างระบอบประชาธิปไตย ไม่ยกระดับจากม็อบเผด็จการ..ขึ้นเป็น..มวลชนประชาธิปไตย หรือมวลชนปฏิวัติ...เพื่อทำหน้าที่ผลักดันการสร้างประชาธิปไตย และเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กรักษาภารกิจสร้างประชาธิปไตยไว้ให้จงได้
- ไม่มีรัฐธรรมนูญที่สะท้อนระบอบประชาธิปไตย หรือรักษาระบอบประชาธิปไตย...แต่มีแต่รัฐธรรมนูญที่สะท้อนรักษาระบอบเผด็จการ...โดยหลอกว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย...หรือ..หลอกว่ารัฐธรรมนูญคือเครื่องมือสร้างประชาธิปไตย หรือสร้างประชาธิปไตยในแผ่นกระดาษ ไม่สร้างประชาธิปไตยในแผ่นดินจริงๆ ซึ่งใช้นโยบายเป็นเครื่องมือสร้างที่ถูกต้องจึงจะสำเร็จ...นั่นคือ..รัฐธรรมนูญเกิดจากลัทธิรัฐธรรมนูญ..ไม่ได้เกิดจากลัทธิประชาธิปไตย นั่นเอง
- ผู้ปกครองและม็อบ...ไม่มีอุดมการลัทธิประชาธิปไตย ไม่มีอุดมคติสังคมประชาธิปไตย...มีแต่อุดมการ หรือวิธีคิดลัทธิรัฐธรรมนูญอันเป็นลัทธิเผด็จการ นั่นคือ...
# มีจุดยืนเห็นแก่ตัว
# มีวิธีคิดเผด็จการ เช่น...
๐ มีทฤษฎีลัทธิรัฐธรรมนูญ
๐ มีแนวทางเผด็จการ(รัฐธรรมนูญ)
๐ มีหลักนโยบายเผด็จการ "
๐ มีนโยบายเผด็จการ "
๐ มีมาตรการ และวิธีการเผด็จการ
๐ มียุทธศาสตร์เผด็จการ "
๐ มียุทธวิธีเผด็จการ "
4. ระบอบประชาธิปไตย หรืออำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน หรือมรรควิธีการปกครองของประชาชน จะต้องมีรูปธรรมตรงข้ามกับระบอบเผด็จการ..หรือตรงข้ามกับอำนาจอธิปไตยของคนส่วนน้อย นั่นคือ...
- มีรัฐสภาที่ประกอบด้วยผู้แทนที่มีลักษณะเป็น.."ผู้แทนของปวงชนคนทั้งประเทศ" มาจากสาขาอาชีพของประชาชนทุกอาชีพอย่างกว้างขวาง เช่น ชาวนาชาวไร่ กรรมกรแรงงาน นายทุนพ่อค้านักธุรกิจ หรือทหารตำรวจ และมาจากทุกเขตทั่วประเทศ...และรักษารักษาผลประโยชน์ของปวงชนคนทั้งประเทศ
- มีรัฐบาลที่มีนโยบายรักษาผลประโยชน์ชิทำตามความต้องการของคนประชาชนคนทั้งประเทศ และทำตามความต้องการของประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง
- มีพรรคการเมืองของประชาชน หรือเป็นพรรคมวลชน หรือเป็นพรรคประชาธิปไตย
อันเป็นพรรคปกครอง(Ruling Party) นปกครองประเทศ ทั้งเป็นพรรคตามกฎหมาย
และพรรคตามธรรมชาติ มาตรการสร้างและรักษาพรรคการเมืองของประชาชน คือ..."ไม่มีการออกกฎหมายพรรคการเมือง...เข้าควบคุมพรรคอย่างเด็ดขาดสิ้นเชิง"...จะต้องปล่อยให้พรรคการเมืองเกิดขึ้นและเติบโตตามธรรมชาติอย่า่งอิสระ เช่น พรรคประชาธิปไตยทั่วโลก
- มีมวลชนประชาธิปไตย...เพื่อผลักดันการสร้างประชาธิปไตย และรักษาระบอบประชาธิปไตย...นั่นคือ..เคลื่อนไหวเปลี่ยนระบอบ หรือยกเลิกระบอบเผด็จการ สร้างระบอบประชาธิปไตย ยกระดับจากม็อบเผด็จการ..ขึ้นเป็น..มวลชนประชาธิปไตย หรือมวลชนปฏิวัติ...เพื่อทำหน้าที่ผลักดันการสร้างประชาธิปไตย และเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กรักษาภารกิจสร้างประชาธิปไตยไว้ให้จงได้
- มีรัฐธรรมนูญที่สะท้อนระบอบประชาธิปไตย หรือรักษาระบอบประชาธิปไตยปไตย..ไม่มีการสร้างประชาธิปไตยในแผ่นกระดาษ มีแต่การสร้างประชาธิปไตยในแผ่นดินจริงๆ ซึ่งใช้นโยบายเป็นเครื่องมือสร้างที่ถูกต้องจึงจะสำเร็จ...นั่นคือ..รัฐธรรมนูญเกิดจากลัทธิประชาธิปไตย นั่นเอง
- ผู้ปกครองและมวลชน...จะมีอุดมการลัทธิประชาธิปไตย มีอุดมคติสังคมประชาธิปไตย...นั่นคือ มีระบบความคิดดังนี้ คือ...
# มีจุดยืนเห็นแก่ส่วนรวม
# มีวิธีคิดประชาธิปไตย เช่น...
๐ มีทฤษฎีลัทธิประชาธิปไตย
๐ มีแนวทางประชาธิปไตย
๐ มีหลักนโยบายประชาธิปไตย
๐ มีนโยบายประชาธิปไตย "
๐ มีมาตรการ และวิธีการประชาธิปไตย
๐ มียุทธศาสตร์ประชาธิปไตย
๐ มียุทธวิธีประชาธิปไตย
5. คสช. และรัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา...จะต้องทำการจัดตั้ง..."การปกครองเฉพาะกาล"(Provisional Government)...ที่มีรัฐธรรมนูญเฉพาะกาล รัฐบาลเฉพาะกาล สภาสร้างประชาธิปไตยเฉพาะกาล และองค์กรบริหารเฉพาะกาล...เข้าปฏิบัติภารกิจของระยะเปลี่ยนผ่าน คือ.."ภารกิจสร้างประชาธิปไตย" หรือปฏิวัติประชาธิปไตย(Democratic Revolution) ตามแนวทาง ร.5 ร.6 ร.7 และนโยบาย 66/23 ขั้นตอนที่ 2 อันเป็นการสร้างประชาธิปไตยระดับสูง ขั้นตอนสุดท้ายที่ยังไม่ได้รับการปฏิบัติให้แล้วเสร็จ และเริ่มลงมือใช้การปกครองเฉพาะกาลทั้งสิ้นง..ปฏิบัติภารกิจของระยะเปลี่ยนผ่านอันเป็นภารกิจแบ่งยุคเปลี่ยนสมัยให้สำเร็จเสร็จสิ้น ใช้เวลาจนกว่าจะทำภารกิจสำเร็จ...แล้วจึงยกเลิกการปกครองเฉพาะกาล..ส่งมอบอำนาจให้แก่รัฐบาลและรัฐสภาใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยต่อไป...เป็นอันว่าเสร็จสิ้นภารกิจ จึงยุติบทบาทของ คสช.และรัฐบาลเฉพาะกาล และรัฐสภาเฉพาะกาล ลงตามกฎเกณฑ์ของผู้ปกครองของการปกครองเฉพาะกาลทั่วโลก
คณะวิชาการและยุทธศาสตร์และการจัดตั้ง
องค์การนำใหม่ สภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ
ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ
วันที่ 18 กันยายน 2557
((เรื่องเก่านำมาเล่าได้ไม่จบ))
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น