- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันว่า...ประเทศที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(Head of State)ดีกว่าประเทศที่มีสถาบันอื่นเป็นประมุข โดยเสนอให้เขียนรัฐธรรมนูญแยกมาตรากันให้ถูกต้องชัดเจนโดยเฉพาะว่าด้วยรัฐ(State)หรือประเทศ นั่นคือ...
มาตรา ๑ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกไม่ได้
มาตรา ๒ ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
มาตรา ๓ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
มาตรา ๒ ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
มาตรา ๓ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันว่า...ตราบใดที่ยังมีระบอบเผด็จการรัฐสภา ตราบนั้นก็ยังมีเงื่อนไขรัฐประหาร และตราบใดที่ยังมีระบอบเผด็จการ ตราบนั้นก็ยังมีม็อบ เหมือนมีไฟก็ต้องมีควัน ถ้าต้องการจะไม่ให้มีรัฐประหารและมีม็อบ ก็จะต้องยกเลิกระบอบเผด็จการ สร้างระบอบประชาธิปไตย เพราะระบอบเผด็จการรัฐสภาคือธาตุแท้(Essence) และรัฐประหารกับม็อบคือปรากฏการณ์(Phenomina)
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...เตือนไว้ว่า...ถ้ายังคงปฏิรูปการเมืองตามลัทธิรัฐธรรมนูญอันเป็นลัทธิเผด็จการ จะต้องพังหนักลง ไม่เชื่อก็ลองดู หรือถ้ายังสร้างประชาธิปไตยด้วยการเขียนใส่ในรัฐธรรมนูญ หรือปฏิรูปด้วยการเขียนใส่รัฐธรรมนูญ ก็จะต้องล้มเหลวในที่สุด เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะการใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือสร้างประชาธิปไตย หรือปฏิรูปนั้นไม่ถูกต้อง จะต้องใชนโยบายเป็นเครื่องมือสร้างประชาธิปไตยจึงจะถูกต้อง แล้วใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือรักษาประชาธิปไตย หรือรักษาผลสำเร็จของการปฏิรูปหรือปฏิวัติไว้ต่อไป
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันไว้ว่า...การรัฐประหารมี ๒ แบบคือ...
๑. การรัฐประหารแบบเผด็จการคือรักษาระบอบเผด็จการ ขัดขวางการสร้างประชาธิปไตย ซึ่งมีมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๕ ถึงปัจจุบัน
๒. การรัฐประหารแบบประชาธิปไตยคือยกเลิกระบอบเผด็จการ สร้างระบอบประชาธิปไตย ซึ่งยังไม่เคยมีมาเลยในประเทศไทย
๑. การรัฐประหารแบบเผด็จการคือรักษาระบอบเผด็จการ ขัดขวางการสร้างประชาธิปไตย ซึ่งมีมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๕ ถึงปัจจุบัน
๒. การรัฐประหารแบบประชาธิปไตยคือยกเลิกระบอบเผด็จการ สร้างระบอบประชาธิปไตย ซึ่งยังไม่เคยมีมาเลยในประเทศไทย
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันว่า...การเลือกตั้งมี ๓ แบบ คือ...
๑. การเลือกตั้งแบบเผด็จการ ถ้ามีการปกครองระบอบเผด็จการ
๒. การเลือกตั้งแบบคอมมิวนิสต์ ถ้ามีการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์
๓. การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย ถ้ามีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ประเทศไทยมีการเลือกตั้งแบบเผด็จการ เพราะมีการปกครองระบอบเผด็จการรัฐสภา ไม่ใช่การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยที่มีหลักการ ๒ อย่างคือ หนึ่งคนหนึ่งเสียง(One man one vote) และเลือกตั้งเสรี(Free vote) คือ เสรีทั้งผู้สมัคร และเสรีทั้งผู้เลือก ไม่มีการใช้รัฐธรรมนูญ ใช้กฎหมายพรรคการเมือง ใช้กฎหมายเลือกตั้ง ใช้การทุจจริตซื้อเสียงของระบบหัวคะแนนมาตัดสิทธิของในการเลือกตั้งประชาชนแต่อย่างใดทั้งสิ้น การเลือกตั้งในประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกเป็น "สถาบันประชาธิปไตย"(Democratic Institution) แต่การเลือกตั้งในประเทศไทยเป็นเผด็จการ เพราะยังมีการปกครองระบอบเผด็จการรัฐสภา ยังไม่สร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงขึ้น
๑. การเลือกตั้งแบบเผด็จการ ถ้ามีการปกครองระบอบเผด็จการ
๒. การเลือกตั้งแบบคอมมิวนิสต์ ถ้ามีการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์
๓. การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย ถ้ามีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ประเทศไทยมีการเลือกตั้งแบบเผด็จการ เพราะมีการปกครองระบอบเผด็จการรัฐสภา ไม่ใช่การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยที่มีหลักการ ๒ อย่างคือ หนึ่งคนหนึ่งเสียง(One man one vote) และเลือกตั้งเสรี(Free vote) คือ เสรีทั้งผู้สมัคร และเสรีทั้งผู้เลือก ไม่มีการใช้รัฐธรรมนูญ ใช้กฎหมายพรรคการเมือง ใช้กฎหมายเลือกตั้ง ใช้การทุจจริตซื้อเสียงของระบบหัวคะแนนมาตัดสิทธิของในการเลือกตั้งประชาชนแต่อย่างใดทั้งสิ้น การเลือกตั้งในประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกเป็น "สถาบันประชาธิปไตย"(Democratic Institution) แต่การเลือกตั้งในประเทศไทยเป็นเผด็จการ เพราะยังมีการปกครองระบอบเผด็จการรัฐสภา ยังไม่สร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงขึ้น
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันว่า...สาเหตุที่ประเทศไทยยังไม่มีระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาชนยังเคลื่อนไหวเรียกร้องแค่เสรีภาพของบุคคล(Freedom of person)ในรูปของม็อบ(Mob) ยังไม่ยกระดับขึ้นสู่การเคลื่อนไหวเรียกร้องอำนาจอธิปไตยของปวงชน(Sovereignty of the people)ในรูปของแม็ส(Mass)หรือมวลชน และพรรคมวลชนประชาธิปไตย(Mass Party) โดยมวลชนทำหน้าที่ผลักดันให้มีสภาของประชาชนฯ เข้าแทนที่รัฐสภาของคนส่วนน้อย นั่นคือ เรียกร้องให้โอนอำนาจจากรัฐสภามาสู่สภาประชาชนฯ และพรรคมวลชนประชาธิปไตยขึ้นกุมรัฐ และมีรัฐบาลเฉพาะกาลของประชาชน มีนโยบายสร้างประชาธิปไตยอย่างทั่วด้าน นั่นเอง
ประชาชนจะมีต้องการจัดตั้งองค์การมวลชน(Mass Organisation) องค์การพรรค(Party Organisation) องค์การรัฐ(State Organisation)ให้ครบถ้วน จึงจะสร้างประชาธิปไตยได้สำเร็จ โดยองค์การมวลชนมีหน้าที่ผลักดัน องค์การพรรมีหน้าที่ชี้นำและขึ้นกุมรัฐสร้างประชาธิปไตย องค์การรัฐ(สภาประชาชนฯ)มีหน้าที่โอนอำนาจจากคนส่วนน้อยมาเป็นอำนาจของประชาชน หรือ อำนาจอธิปไตยของปวงชน(Sovereignty of the People)
ประชาชนจะมีต้องการจัดตั้งองค์การมวลชน(Mass Organisation) องค์การพรรค(Party Organisation) องค์การรัฐ(State Organisation)ให้ครบถ้วน จึงจะสร้างประชาธิปไตยได้สำเร็จ โดยองค์การมวลชนมีหน้าที่ผลักดัน องค์การพรรมีหน้าที่ชี้นำและขึ้นกุมรัฐสร้างประชาธิปไตย องค์การรัฐ(สภาประชาชนฯ)มีหน้าที่โอนอำนาจจากคนส่วนน้อยมาเป็นอำนาจของประชาชน หรือ อำนาจอธิปไตยของปวงชน(Sovereignty of the People)
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันว่า...เส้นวัดความเป็นประเทศอุตสาหกรรม(Industrialisation)คือ "ประเทศที่สามารถสร้างเครื่องมือ(Machine Tool)สำหรับสร้างเครื่องจักร(Machine)ได้"...!!!
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...นำเอาความคิดประชาธิปไตยของ ร.๗ มาประยุกต์เป็นนโยบาย ๖๖/๒๓ สร้างประชาธิปไตยเอาชนะคอมมิวนิสต์และเผด็จการทุกชนิด จนเกิดปรกฏการณ์ความล่มสลายคอมมิวนิสต์ทั่วโลก สิ้นสุดยุคสงครามเย็น(Cold War) เข้าสู่ยุคสันติภาพถาวร(Lasting World Peace)
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันว่า...แนวทางลัทธิรัฐธรรมนูญของคณะราษฎรผิดพลาด แนวทางลัทธิประชาธิปไตยของพระมหากษัตริย์ ร.๕ ร.๖ ร.๗ ถูกต้อง นั่นคือ...
แนวทางลัทธิประชาธิปไตยพระมหากษัตริย์..เป็น..ปฏิวัติที่ถูกต้องแท้จริง(Revolution)
แนวทางลัทธรัฐธรรมนูญคณะราษฎร..เป็น..ปฏิวัติซ้อน หรือปฏิปักษ์ปฏิวัติ(Counter Revolution) อันเป็นการปฏิวัติผิดที่ทำลายการปฏิวัติถูก
แนวทางลัทธิประชาธิปไตยพระมหากษัตริย์..เป็น..ปฏิวัติที่ถูกต้องแท้จริง(Revolution)
แนวทางลัทธรัฐธรรมนูญคณะราษฎร..เป็น..ปฏิวัติซ้อน หรือปฏิปักษ์ปฏิวัติ(Counter Revolution) อันเป็นการปฏิวัติผิดที่ทำลายการปฏิวัติถูก
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ค้นพบความผิดพลาดของชื่ออนุสาวรีย์ที่สี่แยกคอกวัว ว่าไม่ใช่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่เป็นอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ เป็นต้นเหตุของการเกิดความเห็นผิดมิจฉาทิฎฐิ ว่ารัฐธรรมนูญคือประชาธิปไตย ระบอบเผด็จการรัฐสภาคือระบอบประชาธิปไตย ลัทธิรัฐธรรมนูญคือลัทธิประชาธิปไตย เป็นต้นเหตุที่สำคัญที่สุดของปัญหาชาติและปัญหาประชาชน และเป็นผู้เสนอเสนอเปลี่ยนชื่ออนุสาวรีย์จาก.. “อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”..มาเป็น.. “อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ”ตามลักษณะที่แท้จริงของอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ปัญหาความเห็น นำไปสู่การแก้ปัญหาระบอบ นำไปสู่การแก้ปัญหาประชาธิปไตย และนำไปสู่การแก้ปัญหาชาติและปัญหาประชาชนทั้งปวงให้สำเร็จ
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ได้นำเอาองคมนตรี ร.๕ ดุสิตธานีสภา ร.๖ ซึ่งรวมอยู่ใน.. “สภากรรมการองคมนตรี ร.๗” มาประยุกต์ขึ้นเป็นสภาปฏิวัติแห่งชาติ หรือสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ เพื่อเปลี่ยนผ่านอำนาจอธิปไตยมาเป็นของปวงชนอย่างสันติ สร้างประชาธิปไตยให้สำเร็จ ตามทฤษฎีอำนาจรัฐคู่แบบประชาธิปไตย(Democratic Dual Power) ซึ่งมีการเปลี่ยนผ่าน หรือการโอนอำนาจ ๓ ขั้นตอนคือ...
๑. โอนอำนาจทางหลักการ
๒. โอนอำนาจทางการเมือง
๓. โอนอำนาจทางกฎหมาย
๑. โอนอำนาจทางหลักการ
๒. โอนอำนาจทางการเมือง
๓. โอนอำนาจทางกฎหมาย
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...เสนอให้ศึกษา ๓ ลัทธิใหญ่ของยุคประวัติศาสตร์สมัยใหม่(Modern History) คือ ลัทธิเผด็จการ ลัทธิประชาธิปไตย ลัทธิคอมมิวนิสต์ แบบการศึกษาเปรียบเทียบ(Comparative Approach)จึงจะรู้ประชาธิปไตยจริง และสร้างประชาธิปไตยสำเร็จได้ ลัทธิ(Doctrine) มีโครงสร้างประกอบขึ้นด้วย ๓ ทฤษฎี คือ..
๑. ทฤษฎีทางปรัชญา
๒. ทฤษฎีทางรัฐศาสตร์(การเมือง)
๓. ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์
๑. ทฤษฎีทางปรัชญา
๒. ทฤษฎีทางรัฐศาสตร์(การเมือง)
๓. ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...เสนอระบบความคิด หรืออุดมการ(Ideology) ที่ประกอบด้วยจุดยืน(Standpoint) และวิธีคิด(Way of Thinking)
๑. จุดยืนมี ๒ จุดยืน คือ จุดยืนส่วนตัว และจุดยืนส่วนรวม
๒. วิธีคิดประกอบด้วย...
.."ทฤษฎี(Theory)
.แนวทาง(Line)
..หลักนโยบาย(Program or Platform)
..นโยบาย(Policy)
..มาตรการ(Measure)
..วิธีการ(Mean) ..ยุทธศาสตร์(Strategy)
..ยุทธวิธี(Tactic)"
๑. จุดยืนมี ๒ จุดยืน คือ จุดยืนส่วนตัว และจุดยืนส่วนรวม
๒. วิธีคิดประกอบด้วย...
.."ทฤษฎี(Theory)
.แนวทาง(Line)
..หลักนโยบาย(Program or Platform)
..นโยบาย(Policy)
..มาตรการ(Measure)
..วิธีการ(Mean) ..ยุทธศาสตร์(Strategy)
..ยุทธวิธี(Tactic)"
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร..ยืนยันว่า...
๑. “จุดเข้าตี..คือ..การนำทางยุทธศาสตร์”...!!!
๒. “ความฉลาดในสถานการณ์เฉพาะหน้า..คือ..การนำทางยุทธวิธี”...!!!
๑. “จุดเข้าตี..คือ..การนำทางยุทธศาสตร์”...!!!
๒. “ความฉลาดในสถานการณ์เฉพาะหน้า..คือ..การนำทางยุทธวิธี”...!!!
จุดยืน(Standpoint)..คือ..เครื่องวัดว่าใครมีคุณธรรมมากหรือมีคุณธรรมน้อย...???
ถ้ามีความเห็นแก่ตัวมาก ก็เห็นแก่ส่วนรวมน้อย..คือ..มีคุณธรรมน้อย...!!!
ถ้ามีความเห็นแก่ตัวน้อย ก็เห็นแก่ส่วนรวมมาก..คือ..มีคุณธรรมมาก...!!!
ถ้ามีความเห็นแก่ตัวมาก ก็เห็นแก่ส่วนรวมน้อย..คือ..มีคุณธรรมน้อย...!!!
ถ้ามีความเห็นแก่ตัวน้อย ก็เห็นแก่ส่วนรวมมาก..คือ..มีคุณธรรมมาก...!!!
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันว่า..”วิชา..คือ..ภาพสะท้อนความสัมพันธ์ภายในของสรรพสิ่งและปรากฏการณ์” และ “หลักวิชา..มาจาก..ความจริงแท้(Reality)จึงถูกต้องอย่างปราศจากเงื่อนไข” หลักวิชาจึงเป็นเครื่องวัดความถูกต้องของความเห็น(Theory)และนโยบาย(Policy) ความเห็นยังผิดได้ถูกได้เพราะเจือปนไปด้วยความต้องการของมนุษย์ ดังนั้น จะต้องเคารพหลักวิชา การเคารพหลักวิชาคือลักษณะของนักประชาธิปไตย การไม่เคารพหลักวิชาคือลักษณะของเผด็จการ
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันว่า...ความจริงมี ๓ ระดับ คือ ข้อเท็จริง(Fact) ความจริง(Truth) ความจริงแท้(Reality) โดยความจริงหรือสัจธรรมเป็นภาพสะท้อนของความจริงแท้ในสมองมนุษย์ ความจริงหรือสัจธรรมคือภาพ ความจริงแท้คือของจริง ข้อเท็จจริงคือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปรากฎการณ์ หรือเป็นสถานการณ์อาจผิดก็ได้ถูกก็ได้ ถ้าตรงกับสัจธรรมที่ตรงกับความจริงแท้ก็ถูก(Fact ตรงกับ Truth ที่ตรงกับ Reality) ถ้าไม่ตรงกับสัจธรรมที่ตรงกับความจริงแท้ก็ผิด(Fact ไม่ตรงกับ Truth ที่ไม่ตรงกับ Reality) จึงเรียกว่า "ข้อเท็จจริง" สัจธรรมก็ผิดได้ถ้าไม่ตรงกับความจริงแท้ แต่ถ้าสัจธรรมตรงกับความจริงแท้ก็เป็นสัจธรรมที่ถูกต้อง ดังนั้น ขอจริงหรือความจริงแท้คือเครื่องวัดความถูกต้องของความจริง หรือสัจธรรม นั่นเอง
- ไอน์ สไตน์...ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพระหว่าง Space & Time
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพระหว่าง จิต(Mind) กับ วัตถุ(Mater)...!!!
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...เป็นคนแรกในโลกที่ยืนยันว่า..."คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นวิทยาศาสตร์ และยังเหนือกว่าวิทยาศาสตร์หลายชั้นอีกด้วย"...!!!
ลัทธิคอมมิวนิสต์...ค้นพบการนำมี ๓ ระดับ คือ การนำทางความคิด การนำทางการเมือง และการนำทางการจัดตั้ง....!!!
ลัทธิคอมมิวนิสต์...ค้นพบการนำมี ๓ ระดับ คือ การนำทางความคิด การนำทางการเมือง และการนำทางการจัดตั้ง....!!!
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ค้นพบการนำระดับที่ ๓ ซึ่งเป็นการนำสูงสุด..คือ..การนำทางจิตวิญญาณ และการนำทางโมกษธรรม...!!!
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันว่า...”ประเทศไทย..คือ..จุดยุทธศาสตร์โลก”...!!!
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ยืนยันว่า...โลกยุคต่อไปจะเป็น.. “มหาอำนาจทางหลักการ”...ไม่ใช่มหาอำนาจทางอาวุธอีกต่อไป...และไทยจะเป็นมหาอำนาจทางหลักการ...ถ้านำการปฏิวัติสันติด้วยพุทธอหิงสาธรรมสำเร็จ...!!!
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...คือ...ข้อต่อของประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ...!!!
จากยุคประวัติศาสตร์สมัยโบราณ..มาสู่..ยุคประวัติศาสตร์สมัยกลาง..มาสู่..ยุคประวัติศาสตร์สมัยใหม่..ไปสู่..ยุคหลังประวัติศาสตร์สมัยใหม่...!!!
จากยุคประวัติศาสตร์สมัยโบราณ..มาสู่..ยุคประวัติศาสตร์สมัยกลาง..มาสู่..ยุคประวัติศาสตร์สมัยใหม่..ไปสู่..ยุคหลังประวัติศาสตร์สมัยใหม่...!!!
- ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร...ฯลฯ
๒๓ ปีแห่งการจากไปของนักปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ของโลก...ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร....๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๐...!!!
๒๓ ปี เราบรรลุบรรได ๔ ขั้นแล้ว..คือ...
๑. จาก..ไม่มี..มาสู่..มี...!!!
๒. จาก..เล็ก..มาสู่..ใหญ่...!!!
๓. จาก..อ่อนแอ..มาสู่..เข้มแข็ง...!!!
๔. จาก..เติบใหญ่-เข้มแข็ง..ไปสู่..ชัยชนะ...!!!
๑. จาก..ไม่มี..มาสู่..มี...!!!
๒. จาก..เล็ก..มาสู่..ใหญ่...!!!
๓. จาก..อ่อนแอ..มาสู่..เข้มแข็ง...!!!
๔. จาก..เติบใหญ่-เข้มแข็ง..ไปสู่..ชัยชนะ...!!!
คณะวิชาการและยุทธศาสตร์และการจัดตั้ง
สภาบันปฏิวัติสันติพุทธอหิงสาธรรมโลก(ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร) สภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ
พรรคการนำใหม่ประชาชนปฏิวัติสันติ(พรรคตามธรรมชาติ) คณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยฯ
สมัชชากรรมกรแห่งชาติ สภาชาวนาปฏิวัติสันติแห่งชาติ
ทหารประชาธิปไตย สภานักศึกษาแห่งชาติ
สภาเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งชาติ สภาธรรมสันติภาพโลก ขบวนการศาสนาเพื่อมนุษย์ชาติ ฯลฯ
ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ
วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
สภาบันปฏิวัติสันติพุทธอหิงสาธรรมโลก(ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร) สภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ
พรรคการนำใหม่ประชาชนปฏิวัติสันติ(พรรคตามธรรมชาติ) คณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยฯ
สมัชชากรรมกรแห่งชาติ สภาชาวนาปฏิวัติสันติแห่งชาติ
ทหารประชาธิปไตย สภานักศึกษาแห่งชาติ
สภาเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งชาติ สภาธรรมสันติภาพโลก ขบวนการศาสนาเพื่อมนุษย์ชาติ ฯลฯ
ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ
วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น