ฉุนพูดแร๊งๆ ดุ ถึงขั้นทำให้บรรดาทูตต่างชาตินิ่งเงียบ
เมื่อพลเอกประยุทธ์เล่นแรง
คลิกอ่านข่าวของเว็บไซต์รัฐบาลไทย
เพชบุ้ค วาสนา นาน่วม
ทำไมวันนี้ ฉลามเขียว จึงขอให้อ่านข่าวของเว็บไซต์รัฐบาลไทยก่อน ก็เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบว่า เรื่องราวที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ของเราชาวไทยทั้งประเทศเตรียมไว้สำหรับงานที่มีชื่อเป็นทางการว่า
“วาระแห่งชาติ: สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”
จัดขึ้นที่ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เช้า 12 ก.พ.2561
เป็นงานที่น่ารักมากๆ
รัฐบาลมีความหวังสูง จึงได้เชิญ บรรดาผู้แทนองค์การสหประชาชาติ รวมทั้งบรรดาเอกอัครราชทูต และเจ้าหน้าที่สถาทูตของชาติต่างๆที่ประจำอยู่ในไทย เข้าร่วมรับฟังคำกล่าวปราศรัยของ พลเอกประยุทธ์ หัวหน้ารัฐบาลไทย
แต่…
กลายเป็นเรื่องดุเดือดขึ้นมา
ใครก็ไม่รู้ ปล่อยรูป “2พี่น้อง – ทักษิณ กะ ยิ่งลักษณ์” เดินซื้อเกาลัค อยู่ในตลาดแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ออกมาในเครือข่ายโซเชียล เมื่อวันเสาร์ 10 ก.พ.2561
เป็นรูปแรกที่พี่น้องคู่นี้อยู่ด้วยกัน นับแต่วันที่ยิ่งลักษณ์ออกจากไทย 23 ก.ย.
ต่างคนก็ต่างจุดยืน
ทันทีที่รูปพรึ่บในโซเชียล ที่มีการแชร์ต่อๆเมื่อวันเสาร์ ก็ได้มีคนกลุ่มฝ่ายผู้เกลียดชังทักษิณวิเคราะห์ และวิจารณ์ว่า เป็นการปล่อยรูปออกมาในวันที่มีการนัดชุมนุมต่อต้าน คสช.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ของขบวนการ “คนอยากเลือกตั้ง” บางคนถึงกับโยนข้อสังเกตเข้าใส่คนในสังคมว่า นี่คือคำตอบทักษิณไม่เคยหยุดเคลื่อนไหว
และรูปเดียวนี้ ได้สร้างปรากฏการณ์ระอุ ขึ้นในห้องโถงตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อตอนเช้าวันจันทร์ 12 ก.พ.2561 อย่างเหมาะเจาะ
อ่านเรื่องราวที่ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวรายงานสรุปสาระของงานในข่าวของเว็บไซต์รับบาลไทย ให้จบก่อนนะครับ แล้วจึงอ่านคำปราศรัยของพลเอกประยุทธ์
เพื่อจะได้บริโภคความมันแห่งข่าวสาวการเมืองได้อย่างเต็มอรรถรส
ครั้งนี้ พลเอกประยุทธ์เล่นแรงมาก กับชาติที่ให้สองพี่น้องเคลื่อนไหวในดินแดน
ยกศักดิ์ศรีของประเทศไทยขึ้นมาซัดเลยล่ะ
พูดแร้งๆ ดุ
ถึงขั้นทำให้บรรดาทูตต่างชาตินิ่งเงียบ
“เรื่องการมีสิทธิเสรีภาพ เราจะต้องไม่ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ถือเป็นเรื่องสำคัญ จะต้องคำนึงถึงหลักปฏิญญาสากล สิทธิมนุษยชนในฐานะที่เราเป็นสมาชิกภาคีขององค์การสหประชาชาติ โดยเรามีสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ที่ผ่านมารัฐบาลปัจจุบันไม่เคยละเลยการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชน เรามีพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ จึงขอความกรุณาช่วยศึกษากันให้รอบครอบด้วย ไม่เช่นนั้นความขัดแย้งจะเกิดขึ้น เพราะกฎหมายลูกจำนวนมากไม่ได้รับการปฏิบัติ โดยอ้างกฎหมายหลักเพียงฉบับเดียวถือว่าไม่ถูกต้อง ทุกประเทศก็คงเป็นเช่นนี้ เพราะแต่ละประเทศก็มีกฎหมายเป็นของตัวเอง สิ่งสำคัญอย่าลืมความเท่าเทียมและความเป็นธรรม ซึ่งโลกเสรีประชาธิปไตยต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ และการประกาศเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาล มีเป้าหมายที่ชัดเจน ที่จะสร้างสังคมไทยเป็นสังคมสิทธิเสรีภาพ และความเท่าเทียม เพื่อนำไปสู่สังคมสันติสุขและย้ำว่าทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เราต้องทำให้การเมืองและกฎหมายมีความสมดุล เพื่อบ้านเมืองไม่มีปัญหาในการเป็นประชาธิปไตย ผมเองไม่อ้าง กล่าวอ้าง ว่าเป็นผู้นำที่ดีที่สุด แต่มีเจตนารมณ์มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาในประเทศให้ได้ และไม่ว่าเจ้าหน้าที่หรือใครก็ตามหากพบว่าเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนต้องลงโทษสถานหนัก การใช้สิทธิเสรีภาพและการแสดงความคิดเห็นต่างๆต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ที่ผ่านมามีการบิดเบือนทางการเมืองที่มีเจตนาที่บริสุทธิ์และไม่มีบริสุทธิ์ ดังนั้นขอฝากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มองให้ครบทุกด้าน ขอย้ำว่า ผมเองไม่เคยสั่งให้ไปทรมานใคร และไทยยึดถือพันธะกรณีด้านสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด หากมีการกระทำดังกล่าวจริงก็ให้สอบสวนในทุกกรณี และมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องลงโทษเด็ดขาด แต่ต้องตรวจสอบตามหลักฐาน และขอทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการ แต่บางคนกระบวนการครบแล้วยังไปเคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศ หลายประเทศมองเพียงเรื่องเศรษฐกิจ และคิดว่าเป็นเรื่องภายใน ประเทศไทยก็มีศักดิ์ศรี หากใครละเมิดหรือทำผิดกฎหมายในประเทศก็ต้องดำเนินคดี และส่งตัวกลับไปประเทศต้นทาง ดังนั้นทุกประเทศก็ต้องเคารพกฏหมายของไทย และอย่าให้มีการเคลื่อนไหวของคนทำผิดกฏหมายในแต่ละประเทศ เพราะเราเคารพกฏหมายคนอื่น และคนอื่นก็ต้องเคารพกฎหมายเราด้วยเช่นกัน เพราะนี่คือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประเทศไทย ต้องขอโทษหากผมดูดุดันไป เห็นทูตฯ หลายคนไม่ค่อยยิ้ม เครียดกับผมหรืออย่างไร ขอให้ผมเครียดคนเดียวก็พอ”
พลเอกประยุทธ์ท่านพูดถูกต้อง และได้พูดแล้ว
ต่อไปเราก็รอชมปฏิกิริยาของ 2 ประเทศ
ฉลามเขียว ไม่ออกความเห็นใดนะครับ
กลัว
ฉลามเขียว
12 กุมภาพันธ์ 2561
bangkoktoday.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น