วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2561

สถานการณ์ทั่วไปของการเมืองไทยภายในวงจรอุบาทว์ของระบอบเผด็จการไทยปัจจุบัน

วันพุธ, มีนาคม 28, 2561


โหนเจ้าเตะสกัดได้ผล ปิยบุตรประกาศ พรรคอนาคตใหม่ไม่แก้ ม.๑๑๒

ต้องรับว่า ได้ผล ที่พวกโหนเจ้าอย่าง เหรียญทอง’ และ สนธิญา’ ระดมโจมตีพรรคอนาคตใหม่ว่า ล้มเจ้า ทั้งๆ ที่พรรคนี้ยังไม่เคยเสนอแนะนโยบายไปในทางนั้น

จะมีก็แต่แนวที่สองผู้ร่วมก่อตั้ง ทั้ง ปิยบุตร แสงกนกกุล และ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยคิดว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ สมควรจะต้องมีการปรับแก้ เพื่อมิให้ถูกนำไปใช้ทำลายล้างกันทางการเมือง และปรับอัตราโทษให้ต้องตรงกับความผิด

ซึ่งก็ไม่เพียงแค่เขาสองคนคิดเช่นนี้ เคยมีการเสนอแก้ไขกฎหมายหมิ่นกษัตริย์มาแล้วหลายครั้งในอดีต แม้แต่มีผู้ริเริ่มจัดตั้งพรรคการเมืองรายหนึ่ง (ตัวแทนสามัญชน) ชูนโยบายแก้ไข ม.๑๑๒ ดังที่ Nithiwat Wannasiriชวนให้ย้อนไปดูบทบาทของดร.ธนพร ศรียากูล อดีตรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย และที่ปรึกษาพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
 
เขาให้สัมภาษณ์ ประชาไท เมื่อเดือนพฤศจิกา ๒๕๕๖ ไว้ว่า ถ้าไม่ยกเลิกไปเลยก็ต้องปรับแก้เกณฑ์การฟ้องร้องคดีให้ชัดเจน คือมีองค์กรเฉพาะสำหรับยื่นฟ้อง เช่นให้สำนักพระราชวังเป้นผู้แจ้งความ แทนที่เป็น ใครฟ้องใครก็ได้ เช่นที่เป็นมากระทั่งปัจจุบัน


แต่นั่นแหละ พลังโหนเจ้านั้นร้ายแรงนัก จนปิยบุตรต้องเขียนตอบนายสนธิญา สวัสดี โดยประกาศว่า “ผมขอยืนยันว่า ผมจะไม่นำเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ มาเกี่ยวข้องกับพรรค และไม่นำไปผลักดันในพรรค”

ดร.ปิยบุตร เขียนท้าวความ “เมื่อต้นปี ๒๕๕๕ โดยผมเห็นว่า การแก้ไขในกรณีนี้จะทำให้บุคคลไม่อาจนำมาตรา ๑๑๒ มาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งกัน ป้องกันมิให้บุคคลใดแอบอ้างนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ทำลายล้างกัน แก้ไขอัตราโทษให้ได้สัดส่วนกับการกระทำความผิด ทั้งนี้ เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่อย่างมั่นคง อย่างทรงพระเกียรติยศ ทันสมัย และสอดคล้องกับประชาธิปไตย

จากนั้นเขาวิงวอนด้วยว่า “ผมขอเรียนไปยังบุคคลที่ไม่อยากเห็นการเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ ขอเถิดครับ ขออย่าขัดขวางการเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่เลย...การขัดขวางการเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ มิใช่ขัดขวางผมและเพื่อนเท่านั้น แต่มันคือการทำลายความหวังของประชาชนผู้ใฝ่ฝันถึงอนาคตใหม่ด้วย”


ป่านนี้พวกที่เตะสกัดพรรคอนาคตใหม่ทั้งหลาย อาจตีอกชกลมหรือกระทั่งเฉลิมฉลองกันเหมือนครั้งที่ กปปส.ได้รับชัยชนะก็ได้ มันยังอาจบ่งบอกแนวโน้มการเมืองที่จะมีการเลือกตั้งและการจะมีพรรคการเมืองเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศภายใต้กฎบัตรกฎหมายของ คสช. ว่า

อย่าหวังเลยว่าแนวความคิดก้าวหน้าใดๆ จะได้โอกาสลืมตาอ้าปาก การจำนนครั้งนี้จะส่งผลไปถึงภายหน้า ที่ อจ.ปิยบุตรบอกว่า “ต่อให้วันนี้ พวกท่านขัดขวางไม่ให้พรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นได้ แต่ก็จะมีประชาชนอีกจำนวนมากที่อยากให้มีพรรคการเมืองแบบพรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นอยู่ดี” นั้นก็จะโดนเตะตัดสกัดกั้นมิให้เกิดได้อีกเช่นกัน

หรือที่ อจ.ปิยบุตร ยกคำของ Georges Clémenceau ที่ว่า “เพราะเราสามารถปกป้องตอบโต้อย่างทรงเกียรติได้ ก็ต่อเมื่อเขาสามารถโจมตีเราอย่างเสรี” นั้นรูปการณ์ที่ปรากฏ เขามีเสรีที่จะโจมตี แต่เราไม่สามารถปกป้องตอบโต้ได้ต่างหาก

ณ จุดนี้บนเส้นทางอันแสนขรุขระไปสู่การเลือกตั้ง ทั้งที่เหมือนจะสั้นอยู่แค่เอื้อม ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีกว่า คสช.ไม่เพียงวางหมากวางยาไว้เกลื่อนสำหรับกำกับควบคุมการเมืองการปกครองต่อไปอีกไม่น้อยกว่า ๒๐ ปี แล้วยังมีทีท่าจะอยู่ยงคงใช้กฏระเบียบต่างที่ตนวางไว้เอง
 
แม้นว่าสัญญานจะขาดหายไม่เต็มห้าแท่งดีนักในช่วงนี้ เมื่อหนึ่งในผู้สมคบพรรคทหารที่เคยประกาศจะเป็นข้ารองบู้ตให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในนามพรรคประชารัฐ เกิดโอละพ่อ หันไปสนับสนุนการปฏิรูปกองทัพของพรรคเสรีรวมไทย ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ก่อตั้ง

ดังคำให้สัมภาษณ์ของนายสมพงษ์ สระกวี อดีต ส.ว.สงขลาและ สปท.ประกาศว่า “ผมมีจุดวางเท้าทางการเมืองแล้ว ที่พรรคเสรีรวมไทยของเสรีพิศุทธ์ โดยมุ่งหวังสร้างดาบที่คมกริบให้กับประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยอีกเล่มหนึ่ง

 
ส่วนพรรคภูมิใจไทยอันเป็นที่คาดหมายว่าจะต้องคอยหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ทางการเมืองหลังเลือกตั้ง ก็มีรองเลขธิการพรรคออกมาประกาศเหมือนกันว่า “พร้อมจะเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่าจะไม่เสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะตนมองว่าไม่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย”


อีกทั้งพ่อตัวดี จินดามณี’ รำไม่ดีเล่นบทสับสน สายไป ๑๕๐ ปีกลายเป็นสุนทรภู่ เสียนี่ การถ่วงเวลายืดออกไปอีกนิดอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าสำนักนายกฯ ส่งร่าง พรป. การเลือกตั้ง ส.ส.ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ตามที่ข่าวลือกระหึ่ม

แต่กระนั้นรัฐบาลทหารไม่หยุดยั้งสร้างผลงาน ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ’ ต่อไป ครม.รับข้อกำหนดโครงการไทยนิยมยั่งยืนของกระทรวงมหาดไทย “


https://www.matichon.co.th/news/893589)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น