ประเทศน่าเที่ยวที่สุดในโลก
1. สาธารณรัฐสิงคโปร์
ปี 2015 นับเป็นปีที่สำคัญของประเทศสิงคโปร์ เพราะจะมีการเฉลิมฉลองครบรอบ 50
ปีหลังได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.
1965 (พ.ศ. 2508) ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
อาคารเก่าแก่ พื้นที่สีเขียว ศูนย์อาหารกลางแจ้ง
(ฮ็อกเกอร์เซ็นเตอร์) และช็อปปิ้งมอลล์
คือสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เดินทางไปเยือนสิงคโปร์ แต่ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งบันเทิงใหม่ๆ ในแถบมารีน่า เบย์
กำลังเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว ส่วนใครที่ชื่นชอบศิลปะห้ามพลาดชมผลงานต่างๆ
ของศิลปินในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมทั้งศิลปินไทย) ที่ “เนชั่นแนล แกลเลอรี่” ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปีหน้า
2. สาธารณรัฐนามิเบีย
นามิเบีย
เป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังจะมีการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี หลังได้รับเอกราชจากแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 1990 (พ.ศ. 2533) ที่น่าสนใจก็คือ
ประเทศนี้มีความก้าวหน้าในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมและถือเป็นวาระแห่งชาติ
โดยมีการบรรจุบทบัญญัติเกี่ยวกับการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและปกป้องทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นประเทศแรกในแถบแอฟริกา
และมอบอำนาจให้ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการปกป้องดูแล
3. สาธารณรัฐลิทัวเนีย
นับตั้งแต่วันที่
1
มกราคม 2015 เป็นต้นไป ลิทัวเนียจะเป็นสมาชิกใหม่ของอียู
ทำให้การเดินทางไปท่องเที่ยวสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น ลิทัวเนีย
มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เก่าแก่ และแปลกตาให้เที่ยวชมหลายแห่ง
ไม่ว่าจะเป็นแหล่งมรดกโลกอย่าง “โคโรเนียน สปิท” เนินทรายยาว 98 ก.ม. (กว้างตั้งแต่ 0.4
– 4 ก.ม.) ซึ่งคั่นกลางระหว่างโคโลเนียน
ลากูน และชายฝั่งทะเลบอลติก ตลอดจน “เขตเมืองเก่าในวิลนีอุส” (เมืองหลวง) เป็นต้น
4. สาธารณรัฐนิการากัว
นิการากัว
เป็นประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนประเทศนี้ก็คือ
เมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล, ชายหาดที่สวยงามและเป็นสวรรค์ของนักโต้คลื่น (ทิศตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนทิศตะวันออกติดทะเลแคริเบียน), การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ, การท่องเที่ยวแนวผจญภัย,
ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลาย, แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน, กาแฟรสชาติเยี่ยม, อาหารอันโอชะ (ในเมืองมานากัว) ที่สำคัญค่าใช้จ่ายไม่แพงมากนัก ถึงกระนั้น ที่นี่ก็ยังมีโรงแรม 5 ดาวและสปาสุดหรูไว้คอยรองรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก
จนได้ชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในแบบหรูหรา
5. สาธารณรัฐไอร์แลนด์
แม้ค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างสูงแต่ไอร์แลนด์ก็เป็นดินแดนเปี่ยมเสน่ห์และเป็นประเทศเก่าแก่ (มีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์เมื่อกว่า 8,000 ปีก่อนคริสตกาล) นอกจากแหล่งมรดกโลก 3 แห่ง ปราสาทโบราณ
และวิวทิวทัศน์ที่สวยตะลึงแล้ว ที่นี่ยังมีบ้านเก่าแก่ที่มุงหลังคาด้วยฟาง มีฝูงแกะตัวอ้วนเดินเพ่นพ่านบนถนน (และทุกหนทุกแห่ง) ในชนบท มีดนตรี
การละเล่นเต้นรำ ตลอดจนวิสกี้ เบียร์ กาแฟ ฯลฯ
ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และที่ห้ามพลาดในปีหน้าก็คือ
การเดินทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งด้านทิศตะวันตกของประเทศไอร์แลนด์บนเส้นทาง “Wild
Atlantic Way” อันเลื่องชื่อ
ขอบคุณข้อมูลจาก https://paow007.wordpress.com/2014/12/25/10-