โศกนาฏกรรมความรักต้องห้ามข องชาวล้านนา
เริ่มต้นที่บทรักแสนเศร้า จบลงด้วยโศกนาฏกรรมที่กลายเ ป็นตำนาน
“ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์"
บทรักที่ไม่สมหวัง โศกเศร้า เสียใจ คือบทที่ไม่มีใครอยากสรรค์ส ร้าง แต่ชะตาฟ้าลิขิตไว้แล้ว บทรักที่แสนเศร้าจึงกลายเป็ น โศกนาฏกรรมความรัก ที่ไม่อาจหลีกหนีได้
เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความร ักเลยขอหยิบ ตำนาน ความรักแห่งการพลัดพราก ลาจาก มาเล่าขานให้ฟังกันอีกครั้ง
โศกนาฏกรรมความรักต้องห้ามข องชาวล้านนา
ตำนาน ความรักของ มะ เมียะ หญิงสาวชาวพม่าที่มีความรัก มั่นกับ เจ้าน้อยศุขเกษม เจ้าชายล้านนา แต่ความรักต้องจบลงด้วยความ โศกสลด เพราะถูกกีดกันด้วยความต่าง ของเชื้อชาติ ชนชั้น และสถานการณ์บ้านเมือง อันเป็นที่มาของตำนานความรั กที่เล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน
ช่วงเวลาสร้าง ตำนาน ปี พ.ศ. 2445-2505
สถานที่ก่อเกิด ตำนาน นครเชียงใหม่ แคว้นล้านนา (จ.เชียงใหม่ ในปัจจุบัน)
ร้อยตรี เจ้าอุตรการโกศล (ศุขเกษม ณ เชียงใหม่) หรือ เจ้าน้อยศุขเกษม (พ.ศ. 2423-พ.ศ. 2453) ราชโอรสองค์โตในเจ้าแก้วนวร ัฐ กับแม่เจ้าจามรีมหาเทวี แห่งนครเชียงใหม่ เมื่ออายุได้ 15 ปี ถูกส่งไปศึกษาต่อที่โรงเรีย นเซนต์แพทริค (St. Patrick′s School) ในเมืองมะละแหม่ง ประเทศพม่า เมื่อเจ้าน้อยฯ มีอายุ 19 ปี ได้ออกไปเดินเที่ยวในตลาดจึ งพบ มะเมียะ (พ.ศ. 2430-พ.ศ. 2505) หญิงสาวชาวพม่า แม่ค้าขายบุหรี่อายุ 15 ปี ทั้งคู่ต่างก็ตกหลุมรักซึ่ง กันและกัน จนกระทั่งได้ใช้ชีวิตอยู่ร่ วมกันฉันสามีภรรยา โดยทั้งสองได้สาบานต่อกัน ณ ลานหน้าพระธาตุใจ้ตะหลั่นว่ า จะรักกันตลอดไปและจะไม่ทอดท ิ้งกัน หากผู้ใดทรยศต่อความรักที่ม ีให้กัน ก็ขอให้ผู้นั้นอายุสั้น
เมื่อเจ้าน้อยฯ อายุ 20 ปี ต้องกลับนครเชียงใหม่ จึงแอบพามะเมียะกลับมาด้วย เมื่อกลับมาถึงจึงทราบว่าได ้ถูกหมั้นหมายผู้หญิงไว้ให้ แล้ว เจ้าน้อยฯ จึงตัดสินใจเล่าเรื่อง มะเมียะให้ฟัง แต่ไม่ได้รับการยอมรับ เพราะช่วงนั้นพม่าตกเป็นเมื องขึ้นของอังกฤษที่กำลังมีค ดีความกับสยามอยู่ (นครเชียงใหม่เป็นประเทศราช ของสยามในสมัยนั้น) มะเมียะจึงถูกส่งตัวกลับทัน ที
วันเดินทางกลับ อันจะกลายเป็นการจากลาชั่วน ิรันดร์ เจ้าน้อยฯ พูดภาษาพม่ากับมะเมียะได้เพ ียงไม่กี่คำ นางก็ร่ำไห้ด้วยความอัดอั้น ตันใจในอ้อมแขนที่ยากจะแยกจ ากกันได้ เจ้าน้อยฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับ ไปหามะเมียะให้จงได้ นางจึงคุกเข่าลงกับพื้น ก้มหน้า สยายผมออกเช็ดเท้าเจ้าน้อยฯ ด้วยความอาลัยหา ก่อนที่นางจะจากไป
นางได้แต่เฝ้ารอคอยเจ้าน้อย ฯ แต่กลับไร้วี่แววใดๆ มะเมียะจึงตัดสินใจครองตนเป ็นแม่ชีเพื่อแสดงความบริสุท ธิ์ว่านางยังซื่อ สัตย์ ต่อความรักที่มีต่อเจ้าน้อย ฯ
หลังจากที่ทราบข่าวการแต่งง านของ เจ้าน้อยฯ กับเจ้าบัวชุม ณ เชียงใหม่ แม่ชีมะเมียะจึงเดินทางมายั งเมืองเชียงใหม่และขอเข้าพบ เจ้าน้อยฯ เป็นครั้งสุดท้าย แต่เจ้าน้อยฯ ไม่สามารถหักห้ามความสงสารท ี่มีต่อมะเมียะได้ จึงไม่ยอมลงไปพบแม่ชีมะเมีย ะตามคำขอร้อง เพียงแต่มอบหมายให้พี่เลี้ย งคนสนิทนำเงิน 1 กำปั่น( 800 บาท) ไปมอบให้กับแม่ชีมะเมียะเพื ่อใช้ในการทำบุญ พร้อมกับมอบแหวนทับทิมประจำ กายอีกวงหนึ่งเป็นตัวแทนของ เจ้าน้อยฯ ให้กับแม่ชีมะเมียะ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ม ะเมียะและเจ้าน้อยฯ ต่างสะเทือนใจเป็นที่สุด หลังจากเหตุการณ์นั้นเจ้าน้ อยฯ ก็ตรอมใจเอาแต่กินเหล้าและส ิ้นชีพิตักษัยในอีกไม่กี่ปี ต่อมา ส่วน มะเมียะ ได้ครองบวชเป็น แม่ชี จนกระทั่งถึงแก่กรรมในปี พ.ศ. 2505 รวมอายุได้ 75 ปี
“ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์"
บทรักที่ไม่สมหวัง โศกเศร้า เสียใจ คือบทที่ไม่มีใครอยากสรรค์ส
เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความร
โศกนาฏกรรมความรักต้องห้ามข
ตำนาน ความรักของ มะ เมียะ หญิงสาวชาวพม่าที่มีความรัก
ช่วงเวลาสร้าง ตำนาน ปี พ.ศ. 2445-2505
สถานที่ก่อเกิด ตำนาน นครเชียงใหม่ แคว้นล้านนา (จ.เชียงใหม่ ในปัจจุบัน)
ร้อยตรี เจ้าอุตรการโกศล (ศุขเกษม ณ เชียงใหม่) หรือ เจ้าน้อยศุขเกษม (พ.ศ. 2423-พ.ศ. 2453) ราชโอรสองค์โตในเจ้าแก้วนวร
เมื่อเจ้าน้อยฯ อายุ 20 ปี ต้องกลับนครเชียงใหม่ จึงแอบพามะเมียะกลับมาด้วย เมื่อกลับมาถึงจึงทราบว่าได
วันเดินทางกลับ อันจะกลายเป็นการจากลาชั่วน
นางได้แต่เฝ้ารอคอยเจ้าน้อย
หลังจากที่ทราบข่าวการแต่งง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ม
suriya mardeegun
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น