ถ้าจะบอกว่า "เนโรจอมโหด " หรือจักรพรรดิลูเซียส คลอดิอุส เนโร
เลือกเกิดผิดเวลาก็คงจะได้ เพราะยุคทองของโรมมีตั้งมากมาย
แต่เนโรกลับไพล่มาเกิดในสมัยที่โรมอยู่ใต้การปกครองของจักรพรรดิคาลิกูล่า
ต้นแบบความเหี้ยมที่โลกไม่เคยลืม
ความกระหายเลือดทำให้คาลิกูล่าไม่เคยไว้ใจใคร
และพร้อมจะฆ่าทุกคนที่พระองค์สงสัยว่ากำลังวางแผนชิงบัลลังก์ ไม่เว้นแม้แต่
อะฮีโนบาบัส น้องเขยของตัวเอง
ปฏิบัติการฆ่าอะฮีโนบาบัสทำกันสดๆ
ต่อหน้าลูกเมีย ซึ่งได้แก่อะกริปปิน่าและเนโร
น้องสาวและหลานชายของคาลิกูล่า ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเพียงเด็กชายวัย 6 ขวบ
จากนั้นคาลิกูล่าก็ส่งอะกริปปิน่าไปเป็นทาสบนเกาะแห่งหนึ่ง
ส่วนเด็กน้อยเนโรก็ถูกเนรเทศไปใช้แรงงานในถิ่นทุรกันดารอีกแห่ง
เนโรจักรพรรดิผู้มั่งคั่ง จึงเติบโตมาไม่ต่างจากขอทาน ต้องอดมื้อกินมื้อ
ขาดไร้ไปเสียทุกสิ่งแม้แต่สิทธิความเป็นคน เนโรคงได้เป็นทาสไปจนแก่
ถ้าคาลิกูล่าไม่บังเอิญโหดเกินงามไปหน่อย
จนแม้แต่ขุนศึกคู่ใจก็ยังทนดูไม่ไหว
ต้องจัดการปฏิวัติรัฐประหารส่งเสด็จซีซาห์ไปเหี้ยมต่อในนรก
แล้วยกเอาคลอดิอุส
เชื้อพระวงศ์ดวงแข็งที่อุตส่าห์รอดตายจากการไล่ฆ่าของคาลิกูล่ามาได้ขึ้นเป็นซีซาห์แทน
หลังจากครองราชย์ คลอดิอุสก็คืนฐานะให้อะกริปปิน่าและเนโร
สองแม่ลูกจึงได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
แต่อะกริปปิน่านั้นไม่ได้เป็นน้องสาวของคาลิกูล่าเฉพาะร่างกาย
นางยังรับเอานิสัยคดในข้องอในกระดูก ทะเยอทะยานบ้าอำนาจของพี่ชายมาครบถ้วน
อะกริปปิน่าเชื่อมั่นว่าผู้หญิงอย่างนางคู่ควรกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่านั้น
อย่างเช่นตำแหน่งราชินีแห่งโรม เป็นต้น ถึงแม้คลอดิอุสจะมีชายาอยู่แล้ว
แต่งูพิษระดับน้องสาวคาลิกูล่า เรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหา
เพียงแค่จัดฉากนิดหน่อย
อะกริปปิน่าก็สามารถทำให้คลอดิอุสเชื่อว่ามเหสีคบชู้ได้อย่างง่ายดาย
และหลังจากคลอดิอุสประหารมเหสีคู่ทุกข์คู่ยากทิ้งไป
อะกริปปิน่าก็ใช้เต้าไต่
พาตัวขึ้นไปเป็นราชินีคู่ใจของกษัตริย์เฒ่าได้ในเวลาไม่นานนัก พอแผนแรกสำเร็จ
เป้าหมายต่อไปของอะกริปปิน่าก็คือการยกเนโรขึ้นเป็นรัชทายาทต่อจากคลอดิอุส
ตอนแรกอะกริปปิน่าเข้าใจว่าคลอดิอุสผู้เฒ่าซึ่งนอนกอดเมียแก่มานาน
จะหลงเนื้อหนังตึงเปรี๊ยะของเธอจนยอมให้จูงจมูกตามใจชอบ
แต่ปรากฏว่าคลอดิอุสไม่ได้เลอะเทอะขนาดนั้น
ถึงมเหสีวัยคราวลูกจะงัดจริตมารยาออกมาโอ้โลมปฏิโลมสุดฝีมือ
พระองค์ก็ไม่ยอมตั้งเนโรเป็นรัชทายาท
ซ้ำยังทำพินัยกรรมยกบัลลังก์ให้เจ้าชายบริทานิคัสซึ่งเหมาะสมกว่าอีกด้วย
เมื่อผัวไม่อยู่ในโอวาท อะกริปปิน่าก็ไม่รู้ว่าจะเก็บคลอดิอุสไว้ทำไม
ด้วยเหตุนี้วันหนึ่งระหว่างกำลังเสวยพระกระยาหาร
คลอดิอุสก็เกิดแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกจนสิ้นพระชนม์ เนื่องจากเสวย
"เห็ดพิเศษ" ของราชินีอะกริปปิน่าเข้าไป จากนั้นอะกริปปิน่าก็ปลอมพินัยกรรม
แต่งตั้งลูกชายเป็นซีซาห์องค์ต่อไปทันที เนโรซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าบัลลังก์ของตนได้มาอย่างไร
ตั้งพระทัยจะปกครองให้สงบร่มเย็นเหมือนที่คลอดิอุสเคยทำ
แต่ก่อนจะลงมือจัดการงานหลวง เนโรก็ขอสะสางงานราษฎร์เสียก่อน
ด้วยการไปรับเอ็ตเต้ หญิงคนรักที่รักกันมาตั้งแต่ตอนเป็นทาสมาเป็นมเหสี
ท่ามกลางความไม่พอใจของอะกริปปิน่าซึ่งแสดงอย่างโจ่งแจ้งว่ารังเกียจกำพืดโลโซของลูกสะใภ้
แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่ทำให้แม่ลูกขัดแย้งกันรุนแรงเท่ากับการที่อะกริปปิน่าพยายามเปลี่ยนเนโรให้เป็นซีซาห์หุ่นเชิด
เพราะถือว่าตัวเองเป็นคนชิงบัลลังก์มาใส่พานถวายให้ลูกชาย
โดยลืมไปว่าเลือดในอกของนางก็ย่อมจะแข็งกร้าวไม่ยอมใครเหมือนๆ
กับนางนั่นเอง สองแม่ลูกจึงต้องชิงไหวชิงพริบหักเหลี่ยมโหดกันอยู่เนืองๆ
นับตั้งแต่เนโรครองราชย์เป็นต้นมา จุดแตกหักมาถึงเมื่ออะกริปปิน่าขู่เนโรว่า
หากลูกชายไม่ยอมปล่อยให้นางได้เป็นซูสีไทเฮาเวอร์ชั่นโรมันล่ะก็
นางจะเอาพินัยกรรมฉบับจริงของคลอดิอุสมาเปิดโปง
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเนโรก็คงไม่แคล้วหัวขาด
และบัลลังก์ก็จะต้องกลับไปเป็นของ บริทานิคัสทายาทตัวจริง
คำขู่นี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของฉายา "เนโรจอมโหด" อันลือลั่น
เพราะเมื่อหลังชนฝาแล้วคนอย่างเนโรสามารถทำได้ทุกอย่าง
แรกสุดเขาเชิญบริทานิคัสมากินเลี้ยง
แล้วจัดการเสิร์ฟเห็ดพิเศษชนิดเดียวกับที่คลอดิอุสเคยเสวย
ไม่นานบริทานิคัสก็มีอาการขี้เกียจหายใจขึ้นมาอีกคน
ทิ้งบัลลังก์กรุงโรมไว้ในกำมือเนโรโดยสมบูรณ์ เสร็จจากโปรเจ็คท์บริทานิคัส
เนโรก็พุ่งเป้าไปที่ขวกหนามชิ้นสำคัญที่สุด นั่นก็คือพระมารดา
เนโรจัดการสั่งให้คนต่อเรือลำงามไปถวายอะกริปปิน่า แต่พอนางออกไปท่องเรือ
เรือเจ้ากรรมก็รั่วอย่างกับมีใครไปเจาะรูไว้
อย่างไรก็ตามอะกริปปน่านั้นอึดเกินหญิง
ยังอุตส่าห์ว่ายน้ำเข้าฝั่งเอาชีวิตรอดจนได้
เนโรจึงส่งทหารไปรับเสด็จพระมารดากลับมา
เป็นเหตุให้อะกริปปิน่าประชวรพระวาโยสิ้นพระชนม์ระหว่างทางด้วยฝีมือคนที่คุณก็รู้ว่าใคร เรื่องนี้นักจิตวิทยาวิเคราะห์กันว่า
เนโรนั้นพลัดพรากจากอกแม่ไปตั้งแต่เด็ก
พอได้กลับมาอยู่ด้วยกันก็อยากได้ความรักความอบอุ่นเป็นการชดเชย
แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นความหลอกลวงจากอะกริปปิน่า
ความผิดหวังโกรธแค้นมหาศาลจึงกดดันซีซาห์หนุ่มจนทนไม่ไหว
ต้องทำมาตุฆาตทั้งๆ ที่ในใจก็ยังรักแม่อยู่ นับจากอะกริปปิน่าตายไป
เนโรจึงต้องอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดเวลา
ทำให้จักรพรรดิที่เคยตั้งพระทัยว่าจะทำสิ่งดีๆ ให้บ้านเมือง
กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เนโรเริ่มคลุ้มคลั่งเลิกทำงานการ
มุ่งแต่จะหาความสุขใส่ตัว เขาเขี่ยเอ็ตเต้ทิ้งแล้วไปคว้าซาบิน่า พ็อพเพียร์
สาวไฮโซชื่อเสียงฉาวโฉ่มาเป็นมเหสีแทน
เนื่องจากพ็อพเพียร์มีหน้าตาคล้ายอะกริปปิน่า
แต่อยู่กินกันได้ไม่นานเนโรก็เบื่อพ็อพเพียร์อีก
เลยหันไปคว้าทหารหนุ่มหน้าสวยคล้ายพระมารดามาตอน
แล้วให้แต่งตัวเป็นหญิงกลายเป็นมเหสีจำเป็นต่อไป
ครั้นสิ้นเยื่อใยในรสสวาทเนโรก็โละทหารดวงซวยทิ้งแล้วไปอภิเษกกับทาสหนุ่มอีกคนชื่อ
ไพธากอรัส เนโรมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า
ตนเองมีพรสวรรค์ทางดนตรีชนิดที่หาใครในแผ่นดินทาบไม่ได้
เมื่อก่อนตอนเป็นทาสก็ไม่มีใครสนใจฟังเนโรร้องเพลง พอได้เป็นพระราชาแล้ว
ซีซาห์เนโรจึงจัดงานเลี้ยง
พอประชาชนทั้งเมืองนึกว่าจะได้ดื่มฟรีกินฟรีก็ดีใจ
หลั่งใหลกันมามืดฟ้ามัวดิน จากนั้นเนโรก็สั่งให้ทหารปิดประตูวัง
แล้วเปิดฉากแสดงดนตรีที่นิพนธ์ขึ้นเอง
ใครอยากฟังไม่อยากฟังก็ต้องทนอยู่ในนั้นจนจบงาน เชื่อกันว่าเนโรคงจะเคยมีเหตุแค้นเคืองอะไรสักอย่างกับชาวคริสต์
เพราะความสำราญของซีซาห์มักเป็นความเจ็บตัวของคริสเตียนทั้งสิ้น เช่น
โปรดให้เอาหญิงสาวคริสเตียนมาสู้กับวัวกระทิง
จากนั้นก็จะนั่งยิ้มกริ่มชมวัวดุแทงสาวๆ เนื้ออ่อนจนพรุนไปทั้งร่าง
บางทีนึกครึ้มขึ้นมาก็ให้จับคริสเตียนมาต้มในน้ำเดือด
หรือเอาน้ำมันมาราดแล้วจุดไฟเผาทั้งเป็นในชื่อ "คบเพลิงมนุษย์" เป็นต้น ในปี
ค.ศ.64 เกิดไฟไหม้ขึ้นที่ร้านขายวัตถุไวไฟแห่งหนึ่งในกรุงโรม
ก่อนจะลุกลามต่อไปทั่วเมืองกลืนกินบ้านเมืองและชีวิตผู้คนไปมากมาย
บังเอิญว่าก่อนหน้าวันวิปโยคไม่นานนัก
เนโรได้สั่งให้เวนคืนที่ดินจำนวนหนึ่งมาสร้างพระราชวัง
แต่ก็ถูกประชาชนต่อต้าน พอมาเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นมา
ชาวบ้านก็เริ่มสงสัยว่าชะรอยซีซาห์นี้ล่ะที่เป็นตัวการเผาเมือง
เสียงนินทานี้ไม่ใช่กระซิบกันเบาๆ แค่สองสามคน แต่ดังไปทุกหย่อมหญ้า
เนโรจึงต้องแก้ข้อครหาด้วยการโบ้ยว่าชาวคริสต์ต่างหากที่คิดกบฏเผากรุงโรม
จากนั้นเนโรก็สั่งล้างบางชาวคริสต์ครั้งใหญ่
ด้วยการจับไปเป็นเหยื่อให้สัตว์ป่าฉีกเนื้อกินต่อหน้าผู้ชมในสนามโคลอสเซียม
หรือจับมาประหารด้วยวิธีพิสดารต่างๆ สุดแต่จะนึกได้ นับวันจักรพรรดิเนโรก็ยิ่งกระหายเลือดจนกู่ไม่กลับทำให้เดือดร้อนกันไปทั้งเมือง
สภาสูงของโรมจึงแอบลงมติลับตัดสินกันว่าซีซาห์ทรงเป็น "ศัตรูของประชาชน"
ต้องโทษประหารชีวิต พร้อมกับยกเจ้าชายกัลบ้า
เชื้อพระวงศ์อีกองค์ขึ้นเป็นซีซาห์แทน
พอเนโรรู้ข่าวว่าทหารกำลังมาจับตนไปฆ่าอย่างทรมานเหมือนที่ทำกับคนอื่นไว้
ก็หมดกำลังใจจะสู้ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายสิ้นพระชนม์ไป ทั้งๆ ที่อายุเพียง
30 ปีเท่านั้น ชีวิตของเนโรถูกนักจิตวิเคราะห์ในยุคหลังมองว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก
เพราะตอนครองราชย์ใหม่ๆ ทรงตั้งพระทัยว่าจะเป็นกษัตริย์ที่ดีของประชาชน
เนโรจะไม่ต้องกลายเป็นจักรพรรดิโหดเลย
ถ้าไม่เป็นเพราะความผิดหวังที่ได้รับจากอะกริปปิน่า
ผู้ทำลายความรักความศรัทธาของลูกชายด้วยมือของนางเอง |
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น