วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ตะเบงชเวตี้ …พระเจ้าหงสาลิ้นดำ

ตะเบงชเวตี้ …พระเจ้าหงสาลิ้นดำ

Tabinshwehti

เอ่ยถึงพระนามพระเจ้าตะเบงชเวตี้ คนไทยส่วนใหญ่คงจะรู้จักกันดีแม้ว่าจะไม่ใช่คนที่สนใจประวัติศาสตร์นัก กษัตริย์พม่าพระองค์นี้มีบทบาทอย่างยิ่งกับประวัติศาสตร์ไทยในช่วงที่เรา เสียกรุงครั้งแรก แม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ แต่ก็นับเป็นการบอกเหตุและเป็นการบ่งบอกถึงยุคทองของพม่าในยุคโบราณ
พระเจ้าตะเบงชเวตี้ เดิมคือ มังตราราชบุตร เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าตองอู เมงคยินโย วัย เด็กมีเพื่อนเล่นที่เป็นเพื่อนตายคือ จะเด็ด คนเดียวกับที่ ยาขอบ เอามาเขียนเป็นนิยายขายดีนั่นล่ะ มังตราราชบุตรขึ้นเสวยราชสมบัติตั้งแต่พระเยาว์คือเมื่อพระชนมายุเพียง ๑๖ พรรษา อายุขนาดนี้ในสมัยก่อนก็นับว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วล่ะครับ และอายุขนาดนี้นี่ล่ะที่เริ่มแสดงให้เห็นถึงพระบรมเดชานุภาพที่ใครๆ ต้องขยาด
ในสมัยขะโน้น พม่ากับมอญยังคงรบกันสนุกสนาน คือนอกจากอโยธยาที่พม่าหมั่นเพียรมาทำศึกเสมอแล้ว ก็มีมอญนี่ล่ะที่รบกันไม่มีเบื่อ ต่างฝ่ายต่างผลัดกันขึ้นเป็นใหญ่เหนือแผ่นดินลุ่มน้ำอิระวดี ในสมัยของพระองค์นั้นมอญยังเป็นเสี้ยนหนามของพม่าที่หมายจะยึดเอาให้ได้ ตอนที่ถึงวัยที่พระองค์ต้องเข้าพิธีเจาะพระกรรณ ซึ่งก็คล้ายๆ กับพิธีโกนจุกของบ้านเรานั่นล่ะ เป็นการแสดงการเปลี่ยนผ่านวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว พระองค์นำทหารพม่าเพียง ๕๐๐ เดินทัพดุ่ยๆ ไปถึงพระมหาเจดีย์ชเวมอร์ดอ (พระธาตุมุเตา) ท่ามกลางทหารมอญเป็นพันที่ล้อมพระองค์อยู่ แต่พระองค์ก็ไม่สนพระทัย ดำเนินพิธีเจาะพระกรรณจนเสร็จแล้วเสด็จกลับตองอูหน้าตาเฉย โดยทหารมอญได้แต่มองตากันปริบๆ นับเป็นการเหยียบหน้ามอญอย่างจัง
Tabinshwehti2ภาพเขียนตอนที่พระองค์ทรงทำพิธีเจาะพระกรรณหน้าพระธาตุมุเตา
จากนั้นไม่นานพระองค์ก็เหยียบแผ่นดินมอญอีกครั้งในฐานะผู้ชนะสงคราม นอกจากมอญแล้วแผ่นดินใกล้เคียงก็ตกอยู่ภายใต้อาญาสิทธิ์ของพระองค์ทั้งสิ้น ทั้ง แปร พะสิม ยะไข่ แล้วเป้าหมายต่อมาก็คืออโยธยา
มีการวิเคราะห์กันว่าพระองค์เป็นเกย์! เกย์ในที่นี้เป็นความหมายของฝรั่งที่เขาใช้บ่งบอกถึงบุคคลที่มีรสนิยมทางเพศ ผิดปกติจากทั่วไป คนไทยเรามักเข้าใจว่าหมายถึงเฉพาะกลุ่มชายรักชาย แต่เกย์มีความหมายกว้างกว่านั้น ทั้งหญิงรักหญิง หรือพวกที่ได้ทั้งสองเพศ และยังว่ากันว่าพระองค์มีบุคลิกเป็นสตรีมากกว่าบุรุษ จะจริงหรือไม่ประการใดก็ไม่อาจทราบได้นะครับ
Tabinshwehti3พระมหาเจดีย์ชเวมอร์ดอ หรือพระธาตุมุเตา ที่พระองค์เคารพมาก
ในเอกสารจดหมายเหตุที่เขียนโดย ปินโต ฝรั่งชาวโปรตุเกสที่เข้ามาอาศัยบนแผ่นดินพม่าได้เขียนเล่าถึงความโหดเหี้ยม ในการจัดการกับเชลยศึกของพระองค์ บ้างก็ว่าพระองค์จับเชลยศึกมาทรมานหน้าพระที่นั่ง อย่างเช่นใช้ไม้แหลมเสียบทวารทะลุถึงศีรษะ นำคนในครอบครัวมัดรวมกันแล้วถ่วงน้ำ พระองค์ยังนิยมทรมานสตรีมากเป็นพิเศษ นัยว่าไม่โปรดสตรี โดยนำมาเฆี่ยนตีจนถึงแก่ชีวิต แม้กระทั่งเด็กๆ ก็ไม่เว้น ถูกนำมาสังหาร หั่นเป็นชิ้นๆ ให้เป็นอาหารช้าง! หรือเมื่อครั้งยาตราทัพหมายจะชิงเอาอโยธยาเมื่อครั้งต้น ต้องผ่านด่านเมืองกาญจนบุรี พระองค์สั่งให้สังหารเชลยชาวกาญจนบุรีเกือบหมดสิ้น ด้วยเพราะขวางการเดินทัพของพระองค์ทำให้เสียเวลาถึงสามวัน เรื่องโหดๆ แบบนี้ก็ต้องพิจารณากันให้ดี ไอ้ที่ฝรั่งเขียนนั้นบางทีก็แต่งเติมเสียเกินจริง จนเกือบจะเป็นนิยาย อย่างในสมัยช่วงท้ายของราชวงศ์พม่าก่อนจะเสียให้อังกฤษ ก็มีการบันทึกถึงการสังหารหมู่หลายหนจนเหมือนกับเป็นนิยายสยองขวัญ ที่ว่าพระองค์โหดนั้นน่าจะจริง แต่น่าจะโหดในเชิงสงครามมากกว่า
Tabinshwehtiภาพจากภาพยนตร์ สุริโยทัย ที่ส่อแววให้คนดูเข้าใจรสนิยมของพระองค์
พระเจ้าตะเบงชเวตี้ บุกเข้าตีเมืองมอญได้กรุงหงสาวดีและบุกเข้าตีเมืองเชียงกรานเนื่องจากคิดว่า เป็นแผ่นดินมอญ จนสมเด็จพระไชยราชาธิราชต้องยกทัพหลวงขึ้นมาต้าน นี่เองจึงถูกบันทึกว่าเป็นการรบระหว่างพม่ากับไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งจะว่าไปคงเป็นไปได้ยากที่พระองค์จะคิดพลาดว่าเชียงกรานเป็นของมอญ ผมคิดเอาเองตามประสานักประวัติศาสตร์สมัครเล่นนะ ว่าพระองค์คงอยากจะหยั่งเชิงอโยธยาดูสักหน่อย คือไหนๆ มาก็ยึดเอามอญได้แล้ว ก็เลยลองเหยียบเชียงกราน ดูแววอโยธยาเพื่อดูเชิงทัพไทย

ความหวังในการยึดเอาอโยธยานั้นยัง ไม่สมพระประสงค์ พระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ด้วยพระชนมายุเพียง ๓๔ พรรษา วิญญาณของพระองค์ยังกลายเป็นผีหรือ “นัต” ตามความเชื่อของชาวพม่า ที่ได้รับการเคารพบูชามาถึงปัจจุบันอีกด้วย

Suriya mardeegun

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น