วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อธิบายพระเจ้า ด้วยตรรกะอย่างง่าย

อธิบายพระเจ้า ด้วยตรรกะอย่างง่าย



ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ทั้งรูปธรรมและนามธรรม มันล้วนเกิดจาก"สิ่งที่มีอำนาจเท่ากับมันหรือเหนือกว่า " , เช่น ตัวเรา เกิดจากสารอาหาร พลังงาน ที่แม่เรากินเข้าไปและค่อยๆสะสมผ่านระบบบางอย่างจนคลอดมาเป็นตัวเรา , ร่างกายเราเติบโตจากอาหารทั้งพืชและเนื้อสัตว์ , เนื้อสัตว์ก็เกิดจากสารอาหารจากพืช , พืชได้พลังงานจากแสงอาทิตย์และแร่ธาตุในดิน เป็นพลังงานต่อเนื่องที่มหาศาล ...กว่าจะมาเป็นตัวเรา

++
สติปัญญาของมนุษย์ ก็เกิดจากความปรีชาที่ยิ่งกว่า , เช่น การที่คนเรา จะออกงานวิจัย หรือเขียนบทความสักบทได้ มันมาจากการสะสมความรู้มากมายนับไม่ถ้วน , ความรู้นั้นก็ได้รับการสะสมด้วยบันทึกของปราชญ์หลายยุคหลายสมัย นับไม่ถ้วนย้อนกลับไปเรื่อยๆ

++
ดังนั้นผมขอพูดว่า สรรพสิ่งใดๆ
ต้องเกิดจากสิ่งที่มีอำนาจเท่ากับมัน หรือเหนือกว่ามัน
ดัง นั้นเมื่อย้อนระบบกลับไปเรื่อยๆตั้งแต่กำเนิดโลก กำเนิดระบบสุริยะ กำเนิดกาแล็กซี่ ไปจนถึงกำเนิดจักรวาล , ทฤษฎีปัจจุบันยังได้แค่สัญญิฐานว่าเอกภพเกิดจากความว่างเปล่า ไม่มีสถานที่และเวลา ... แต่คำว่าว่างเปล่าก็ย้อนแย้งในตัวเอง คือ ว่างเปล่าแล้วจะมี Something ได้ยังไง , แปลว่ามันเกิด paradox ของตัวตนมันเอง / แต่ในการอธิบายเรื่องพระเจ้า จากกุรอานที่กล่าวว่าพระองค์เป็นสิ่งที่ไม่มีการเกิด การดับ ทรงไม่ Belong ต่อสิ่งใดๆ แต่ทุกสิ่งต่างหากที่เกิดจากจากพระองค์ , พระองค์มีอำนาจไม่จำกัดมาแบบนิรันดร์ และจักรวาลก็เป้นแค่สิ่งที่ทรงสร้างขึ้นมา ...

บางคนเรียกว่าธรรมชาติ
แต่ การที่เราพูดว่าธรรมชาติมันมีนัยยะว่า มันเป็นไปของมันแบบอัตโนมัติ มันไม่มีเจตนา ไม่มีการสื่อสาร ไม่มีการสั่งสอน ... แต่ผมคิดว่า อำนาจในการสื่อสาร ตั้งกฎ เป็นสิ่งที่มีค่ามากในมนุษย์ แล้วทำไมเราไม่คิดว่า สิ่งที่กำเนิดทุกสิ่งได้ จะไม่ยิ่งมีเจตนา มีการสั่งสอน มีวาระที่ชัดแจ้งกว่าสิ่งที่มนุษย์คิดมา
--------
มีสิ่งใดบ้าง ที่ Bang ! ออกมาแล้วกลายเป็นสิ่งสร้างสรรค์ (เช่นจักรวาล)
คุณ สามารถระเบิดก้อนหินให้ประกอบกันกลายเป็นรถ หรือระเบิดเศษเหล็กให้ประกอบเป็นจักรยานได้อย่างไร้แบบแผนได้กระนั้นหรือ ? , แน่นอน มีแต่อำนาจบางอย่างที่สร้างสรรค์ได้เช่นนั้น และแน่นอน มนุษย์มีค่าเกินกว่าที่จะเป็นของเล่นของใคร แม้แต่เทวดา(มลาอิก๊ะ) ที่มีอำนาจจัดสรรการงานของจักรวาล ยังถูกพระเจ้าสั่งให้ก้มกราบต่อเรา , พระองค์ต้องการบางอย่างจากเรา และทดสอบเราเพื่อสิ่งนั้น
--------------------------------------

อัลลอฮ์ผู้ทรงเอกกะ อัลลอฮ์นั้นทรงเป็นที่พึ่ง
พระองค์ไม่ประสูติและไม่ทรงถูกประสูติ
และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์” (อัลกุรอาน, 112:1-4)
**
“และกิจการของเรา นั้นเพียง (บัญชา) ครั้งเดียว
คล้ายกับชั่วพริบตาเดียว” (อัลเกาะมัร 50)

++

"และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นไม่เห็นดอกหรือว่า
แท้จริงชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนั้นแต่ก่อนนี้รวมติดเป็นอันเดียวกัน
แล้วเราได้แยกมันออกจากกัน และเราได้ทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตมาจากน้ำ
ดังนั้นพวกเขาจะยังไม่ศรัทธาอีกหรือ" (อัลอัมบิยาอฺ อายะฮ์ 30)

"อัลลอฮ์ไม่ทรงพึ่งพาสิ่งใด แต่ทุกสิ่งล้วนพึ่งพาพระองค์ "





------------------------------------
คุณลักษณะของอัลลอฮ์ตามที่อิสลามอธิบาย
1.อัล-เกาะ ดีม หมายถึง อัลลอฮฺ ทรงเป็นนิรันดร พระองค์ไม่มีจุดแห่งการเริ่มต้น หรือจุดแห่งการอวสาน ไม่มีสรรพสิ่งใด ๆ ที่จะเป็นนิรันดรได้นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น

2.อัล-กอดิร หมายถึง อัลลอฮฺ ทรงไว้ซึ่งมหาอำนาจอันใหญ่ยิ่ง เหนือสิ่งใด ๆ ทั้งมวล อำนาจของพระองค์อยู่เหนือทุกสิ่งสรรพ

3.อัล-อะ ลีม ความถึง อัลลอฮฺ ทรงรู้แจ้งในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเจตนารมณ์หรือความปรารถนานาประการที่ซ่อนเร้นของมนุษย์ล้วนอยู่ ในความรอบรู้ของพระองค์ทั้งสิ้น

4.อัล-ฮัยยุ หมายถึง อัลลอฮฺ ทรงดำรงอยู่เสมอและจะทรงคงอยู่ตลอดไป

5.อัล-มุ รีค หมายถึง อัลลอฮฺ ทรงมีความประสงค์อันเป็นอิสระ และทรงไว้ซึ่งดุลพินิจในกิจการงานทั้งปวง พระองค์ไม่ทรงทำสิ่งใด ๆ ภายใต้แรงบังคับ

6.อัล-มุด ริก หมายถึง อัลลอฮฺ ทรงเข้าใจในทุกสิ่งสรรพ ดังเช่น อัส-สะมิอฺ (ทรงได้ยินในทุกสิ่ง) (อัล-บะซีร) อัลลอฮฺ ทรงเห็นในทุกสิ่งสรรพโดยปราศจากความจำเป็นที่จะต้องมีดวงตาหรือหู

7.อัล-มุ ตะกัลลิม หมายถึง อัลลอฮฺ คือเจ้าแห่งถ้อยวาจากอันใหญ่ยิ่ง พระองค์สามารถบันดาลให้เกิดการพูดในสิ่งใด ๆ ดังเช่น ที่พระองค์ทรงบันดาลให้ต้นไม่พูดกับศาสดา มูซา (โมเสส) และทรงบันดาลให้เกิดการพูดภายใน “ม่านแสง” กับท่านศาสดามุฮัมมัด (ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่านและลูกหลานของท่าน)

8.อัซ-ซอดิก หมายถึง อัลลอฮฺ ทรงจริงแท้ในคำกล่าวและถ้อยสัญญาแห่งพระองค์

การ จำกัดขอบเขตต่อบรรดาคุณลักษณะของอัลลอฮฺเป็นสิ่งที่เป็นไม่ได้ และคุณลักษณะทั้งแปดข้อที่ได้กล่าวมานั้นมิใช่เป็นคุณลักษณะโดยละเอียด เป็นเพียงคุณลักษณะสำคัญ ๆ ที่จะทำให้เราได้เข้าใจถึงบารมีแห่งพระองค์เท่านั้น

บรรดาคุณลักษณะเหล่านี้มิใช่เป็นคุณลักษณะที่เกิดขึ้นภายหลัง 
แต่มันเป็นคุณลักษณะโดยธรรมชาติในแนวความคิดที่เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง


บทความอื่นๆ ------------------------------------------

อิสลาม กับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่น่าทึ่ง (3 หัวข้อ)
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=apirat&month=15-06-2015&group=1&gblog=102
อิสลามอธิบายว่านุษย์ถูกสร้างมาจากอะไร (บ้าง) ? 
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=apirat&month=15-06-2015&group=1&gblog=103

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น