คงเป็นความรู้สึกทั้งตื่นเต้น และตื้นตัน โดยเฉพาะทีมนักวิทยาศาสตร์ในโครงการนิว ฮอไรซันส์ ( New Horizons) ของนาซา ที่จะต้องภูมิใจกับความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติในการส่งยานสำรวจอวกาศ นิว ฮอไรซันส์ (ขอบฟ้าใหม่) ไปพิชิตดาวพลูโต ที่อยู่ริมขอบสุริยจักรวาลของเรา
เพราะกว่าจะมาถึงวันที่ยาน นิว ฮอไรซันส์ บินเฉียดเข้าใกล้ดาวพลูโตมากที่สุด ในระยะห่างเพียงแค่ 12,500 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 58 จนถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการสำรวจอวกาศนั้น บรรดานักวิทยาศาสตร์ในโครงการนิว ฮอไรซันส์ต้องรอคอยมานานกว่า 9 ปี นับตั้งแต่ได้ส่งยานสำรวจลำนี้ขึ้นไปกับจรวดแอตลาส วี เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2549
ด้วยระยะทางจากโลกไปยังดาวพลูโต ไกลมากถึง 3 พันล้านไมล์ โอกาสที่ยานสำรวจนิว ฮอไรซันส์จะพังเสียหาย หรือถูกทำลายนั้นมีมาก แต่ในที่สุด ยานสำรวจซึ่งมีน้ำหนัก 478 กิโลกรัม และมีขนาดไม่ได้ใหญ่โตนัก เพียงแค่ เท่ากับเปียโนหลังหนึ่งเท่านั้น กลับสามารถเดินทางบุกบั่น มุ่งมั่นไปยังดาวพลูโตได้สำเร็จอย่างงดงาม
นอกเหนือจากนั้น ที่น่าทึ่งก็คือ ยานสำรวจนิว ฮอไรซันส์สามารถเดินทางผ่านเส้นทางที่กำหนดไว้ได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน ผ่านดาวอังคาร ไปถึงดาวพฤหัสบดี ในปีแรก จากนั้น ก็เข้าสู่ภาวะ "หลับยาว" คือปิดการใช้พลังงานของระบบเกือบทั้งหมด เพื่อประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานของระบบให้นานที่สุด
โดยมีทีมควบคุมที่ศูนย์ปฏิบัติการภาคพื้นดินขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ที่ห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ต้องคอยปลุก "ยานนิว ฮอไรซันส์" ให้ตื่นเป็นระยะๆ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี
โดยถูกปลุกเป็นครั้งที่ 18 เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2557 เมื่อยานสำรวจนิว ฮอไรซันส์อยู่ห่างจากดาวพลูโต หรือมีชื่อเรียกว่า ดาวเคราะห์แคระ เหลือระยะทาง 260 ล้านกิโลเมตร เพื่อเตรียมการสำรวจดาวพลูโต ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยการสำรวจจากระยะห่าง ณ วันที่ 15 ม.ค.58 จนกระทั่งไปถึงวันที่ยานเฉียดเข้าใกล้ดาวพลูโตมากที่สุด ในระยะ 12,500 กม. เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ ทีมควบคุมยานสำรวจนิว ฮอไรซันส์ ภาคพื้นดินต้องใช้เวลารอนานถึง 4 ชั่วโมง 25 นาที จึงจะได้รับสัญญาณวิทยุตอบกลับจาก "นิว ฮอไรซันส์" เนื่องจากระยะทางที่อยู่ห่างไกลจากโลกถึง 3 พันล้านไมล์
03.02 น. (ตามเวลาในสหรัฐฯ) วันที่ 14 ก.ค.ถึงเวลาฉลอง
ประมาณ 13 ชั่วโมง หลังจากยานนิว ฮอไรซันส์เข้าใกล้ดาวพลูโตมากที่สุดแล้ว ในที่สุด ยานได้ส่งสัญญาณกลับมาบ้าน ว่า ยังอยู่รอดปลอดภัยดี ขณะได้เคลื่อนตัวผ่านและเข้าสู่วงรอบการโคจรของดาวพลูโต ทำให้โดนอากาศปะทะอย่างรวดเร็วและรุนแรงด้วยความเร็วลมสูงถึง 49,000 กม./ชม. โดยทีมนักวิทยาศาสตร์คาดว่า มีโอกาส 1 ใน 10,000 ที่จะมีเศษซากวัตถุชิ้นใดชิ้นหนึ่ง กระแทกใส่ยานนิว ฮอไรซันส์ ขณะเคลื่อนผ่านดาวพลูโตในระยะใกล้ที่สุด หรือห่างเพียงแค่ประมาณ นิวยอร์ก กับนครมุมไบ
และแล้ว จากการคำนวณเวลาในการเดินทางของสัญญาณวิทยุจากดาวพลูโต มายังโลกได้อย่างถูกต้อง ในที่สุด ทีมควบคุมภาคพื้นดินที่มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ต้องเฮกันดังลั่น เมื่อได้รับคลื่นวิทยุจากยานนิว ฮอไรซันส์
03.06 น. ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความยินดี
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของนาซาทันที ในฐานะที่สามารถส่งยานสำรวจไปยังดาวพลูโตสำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พลูโต มียานไปเยือนครั้งแรก ! ขอบคุณ@NASA มันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ ในการสำรวจและความเป็นผู้นำด้านอวกาศของชาวอเมริกัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ทวีตข้อความยินดี
03.10 น. จิ๋วแต่เร็วจี๋
ยานสำรวจนิว ฮอไรซันส์ มีขนาดเพียงแค่เปียโนหนึ่งหลัง และเดินทางด้วยความเร็วสูงมาก ขนาด 30,800 ไมล์ ต่อ ชม. ขณะเคลื่อนตัวผ่านดาวพลูโต ซึ่งถูกพบว่า มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2,370 กม. จนถือเป็นวัตถุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแถบไคเปอร์
03.17 น. การเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก
ยานนิว ฮอไรซันส์ใช้เวลากว่า 8 ชม. หลังจากเข้าไปใกล้ดาวพลูโตในระยะใกล้ที่สุดแล้ว เพื่อทำการศึกษาเก็บข้อมูลบรรยากาศและบันทึกภาพ โดยได้ส่งภาพขณะเคลื่อนตัวผ่านดาวพลูโตเป็นภาพแรกกลับมาถึงโลกโดยใช้เวลาอีก 4 ชม.ครึ่ง
04.45 น. ดร.สตีเฟน ฮอว์กกิ้ง ยกย่อง
"บัดนี้ ระบบสุริยจักรวาลจะถูกเปิดออกให้กว้างมากขึ้นต่อพวกเรา เป็นการเปิดเผยความลับของดาวพลูโตที่อยู่ไกลโพ้น’ ดร.สตีเฟน ฮอว์กกิ้ง นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ผู้รอบรู้เรื่องจักรวาล กล่าวชื่นชมความสำเร็จของการส่งยานสำรวจนิว ฮอไรซันส์ ไปยังดาวพลูโต และสถานีโทรทัศน์ นาซา ทีวี ได้นำคำพูดของเขามาออกอากาศ
"พวกเราสำรวจอวกาศ เพราะพวกเราเป็นมนุษย์ และต้องการจะรู้ ...ผมหวังว่า ดาวพลูโตดวงนั้น จะช่วยพวกเราในการเดินทางไปที่นั่น" สตีเฟน ฮอว์กกิ้ง กล่าว
ไขปริศนาดาวพลูโต
ดาวพลูโต ใช้เวลาในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ เป็นระยะเวลา 248 ปี จึงทำให้ฤดูกาลบนดาวพลูโตมีความแตกต่างกันอย่างรุนแรง โดยดาวพลูโตมีการโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าการโคจรของดาวเนปจูน จึงทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์ยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับดาวพลูโต ซึ่งขณะที่นาซาส่งยานสำรวจนิว ฮอไรซันส์ไปยังดาวพลูโตนั้น ยังอยู่ในสถานะเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ของระบบสุริยจักรวาล
ทว่าไม่กี่เดือนต่อมา ดาวพลูโตได้ถูกปลดจากการเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2549 โดยที่ประชุมสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล ซึ่งร่วมประชุมที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก เนื่องจากได้มีการกำหนดนิยามใหม่ดาวเคราะห์ คือ วัตถุทรงกลมที่โคจรรอบดวงอาทิตย์, มีมวลมากพอที่จะมีแรงโน้มถ่วงดึงดูดตัวเองให้อยู่ในสภาวะสมดุล หรือรูปร่างใกล้เคียงทรงกลม, มีวงโคจรชัดเจน และสอดคล้องกับดาวเคราะห์ข้างเคียง และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอย่างน้อย 500 ไมล์
จากนิยามใหม่ ทำให้ดาวพลูโต และดาวอีริส ซึ่งเคยเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 และ10 ‘ตกชั้น’ ถูกปลดจากการเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ เนื่องจากดาวพลูโต ไม่สามารถควบคุมแรงดึงดูดและวงโคจรของสิ่งต่างๆ ทั้งยังมีวงโคจรไม่สอดคล้องกับดาวเคราะห์ข้างเคียง และให้ถือว่าดาวพลูโต เป็นดาวเคราะห์แคระ มีลักษณะคล้ายวัตถุขนาดเล็กในระบบสุริยะเท่านั้น
ส่ง "ความรัก"กลับมาให้มนุษย์ : ปานรูป "หัวใจ’"บนดาวพลูโต
ทีมควบคุมภาคพื้นดินโครงการนิว ฮอไรซันส์ ต้องตื่นตะลึง ไม่น่าเชื่อกับภาพถ่ายที่ยานส่งกลับมา ประการแรก สีของดาวพลูโตมีสีออกไปทางเฉดน้ำตาลอมแดง ไม่ใช่สีเทาเหมือนที่เคยคิด อีกทั้งยังเห็นรอยลักษณะเหมือนกับ ‘ปานรูปหัวใจขนาดใหญ่ยักษ์บนดาวพลูโต’ ขณะที่ภาพถ่าย‘โคลส อัพ’ ระยะใกล้ที่ยานสำรวจส่งกลับมา ได้แสดงให้เห็นว่ามีเทือกเขาปกคลุมด้วยน้ำแข็ง สูงถึง 11,000 ฟุต พอๆ กับเทือกเขาร็อกกี้ ในอเมริกาเหนือ อยู่บนดาวพลูโตด้วย
ส่วน พื้นผิวของดาวเคราะห์แคระดวงนี้ถูกปกคลุมด้วยก๊าซไนโตรเจนแข็ง และ ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์แข็ง ซึ่งองค์ประกอบของน้ำแข็งบนโลกกับดาวพลูโตนั้นแตกต่างกัน นอกจากนี้ ยานนิว ฮอไรซันส์ยังส่งรูปภาพของชารอน ดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในดวงจันทร์บริวาร 5 ดวงของดาวพลูโตกลับมาด้วย
ดร.อลัน สเติร์น หัวหน้าโครงการนิว ฮอไรซันส์ ยังกล่าวว่า การค้นหาความจริงของดาวพลูโต ได้ระเบิดอยู่ในใจของทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ทุกคน ด้วยความอยากรู้ถึงปริศนาอันลี้ลับของดาวพลูโต เมื่อยานสำรวจนิว ฮอร์ไรซันส์สามารถไปถึงดาวพลูโตได้สำเร็จ หลังจาก ไคลด์ ทอมบอห์ นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน เป็นผู้ค้นพบดาวพลูโตเป็นคนแรกเมื่อ 85 ปีก่อน
ขณะที่ทีมนักวิทยาศาสตร์นาซารุ่นหลัง ก็ไม่ลืมจะนำเถ้าอัฐิของทอมบอห์ ใส่กระป๋องโลหะขึ้นไปกับยานสำรวจนิว ฮอไรซันส์ ไปยังดาวพลูโตด้วย เพื่อเป็นการแสดงการยกย่องเชิดชู และด้วยความที่ต้องการให้ทอมบอห์แม้จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่เถ้าอัฐิของเขาได้มีโอกาสอยู่ใกล้กับดาวพลูโตมากที่สุดชนิดที่ยังไม่มีมนุษย์คนใดเคยทำได้มาก่อน
ข้อมูลและภาพ : ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ค. 2558
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น