อดีตพนักงาน Kaspersky แฉ! ปล่อยมัลแวร์ปลอมนาน 10 ปี
แคสเปอร์สกี้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก เจออดีตพนักงานแฉ “ปล่อยมัลแวร์ปลอมนานกว่า 10 ปี” เพื่อสร้างความเสียหายให้กับคู่แข่ง
อดี ต 2 พนักงานของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) ได้ออกมาเปิดใจกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้พัฒนาโปรแกรมอ่านที่ใบลาชื่อดังจากรัสเซีย ได้ทำการปล่อยมัลแวร์ปลอม เพื่อเล่นเกมส์การตลาดกับบริษัทคู่แข่งมานานกว่า 10 ปี เพื่อให้คู่แข่งในการตลาดเสียหายและล่อลวงให้พวกเขาปล่อยโปรแกรมป้องกัน ไวรัสของพวกเขาออกมา เพราะต้องการแก้เผ็ดบริษัทคู่แข่งที่ทางแคสเปอร์สกี้เชื่อว่าบริษัทนั้นได้ ขโมยเอาเทคโนโลยีหรือไอเดียโปรแกรมของพวกเขาไป
“แคสเปอร์สกี้_แล็ป – IFA 2012” by Michael Movchin – Own work. Licensed under CC BY-SA 3.0 via Wikimedia Commons.
กระบวนการการทำมัลแวร์ปลอม เริ่มจากการเขียนโค้ดที่ดูเป็นอันตราย จากนั้นก็ได้แทรกโค้ดดังกล่าวนั้นเข้าไปในซอฟต์แวร์ทั่วไปของโปรแกรม และส่งไฟล์ไปยังเว็บไซต์แหล่งรวบรวมข้อมูลไวรัสคอมพิวเตอร์ อาทิเช่น Virus Total by Google และด้วยวิธีการแบบนี้จะทำให้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสของคู่แข่งบางตัวที่ได้อ้าง ถึงข้อมูลจากเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลดังกล่าวนั้นหลงเชื่อและเข้า ใจผิดว่าโปรแกรมนั้นมีโค้ดที่เป็นอันตรายอยู่ ซึ่งจริงๆแล้วคือไวรัสหรือมัลแวร์ของจริงนั่นเอง
“แคสเปอร์สกี้_แล็ป” by Alexxsun – Own work. Licensed under CC BY-SA 4.0 via Wikimedia Commons.
วิธีการดังกล่าว ถ้าเกิดคู่แข่งพลาดท่า (ทั้งทั้งที่จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคิด) เสียทีลบไฟล์โปรแกรมที่ถูกต้องและตีความหมายว่าเป็นมัลแวร์ออกไป และแน่นอนว่าผลกระทบส่วนใหญ่นั้นจะมีผลโดยตรงกับบรรดาผู้ลูกค้าที่ใช้ โปรแกรมดังกล่าวนั่นเอง (ความซวยเลยไปตกอยู่ที่ผู้ใช้โปรแกรม)
นอกจากนี้แหล่งข่าวยังอ้างอีกว่าข้อมูล และที่มาของเรื่องนี้เป็นการวางกับดักไว้เพื่อที่จะเล่นงานคู่แข่งรายเล็ก หรือรายย่อยเท่านั้น เหตุเพราะอยากแก้เผ็ดที่ขโมยโปรแกรมและไอเดียของแคสเปอร์สกี้ไป ซึ่งจริงๆแล้วแผนการณ์ดังกล่าวมันได้ส่งผลกระทบไปถึงผู้ใช้ซอฟต์แวร์รายใหญ่ ยัง Microsoft / Avast /AVG อีกด้วย
ก่อนหน้านี้บริษัทซอฟต์แวร์อะไรใหญ่ Microsoft / Avast /AVG เคยให้ข่าวและข้อมูลกับรอยเตอร์สว่าพวกเขาได้พบสาเหตุและฝีมือของคนที่หลอก ล่อให้ซอฟต์แวร์และโปรแกรมของพวกเขาทำงานผิดปกติโดยการเฟคไฟล์ที่ธรรมดาให้ เป็นข้อมูลไวรัสในคอมพิวเตอร์
“ Kai Moerk” by Kai Mörk. Licensed under CC BY 3.0 de via Wikimedia Commons.
อย่างไรก็ตามทางบริษัทแคสเปอร์สกี้ยัง
ออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่นกับข่าวที่เกิดขึ้น ว่า
ทางบริษัทไม่เคยมีวิธีการหรือการกระทำดังกล่าวเลยอย่างที่เป็นข่าว
และยังอ้างต่ออีกว่าบริษัทของเราเป็นเครือในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง
เพราะฉะนั้นเราต้องทำงานอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจของผู้ใช้บริการ
จึงไม่มีความจำเป็นใดใดที่จะต้องทำเรื่องแบบนั้นกับคู่แข่งซึ่งทางแคสเปอร์สกี้ยังได้ออกมาโตเถียง อีกว่า ได้มีการปรับปรุงและอัพเดทขั้นตอนและวิธีการในการป้องกันไวรัส และเชื่อว่าบริษัทไม่เคยมีวิธีการดังกล่าวที่จะโจมตีบริษัทคู่แข่งเพราะมัน จะส่งผลกระทบที่เลวร้ายมากในบริษัทอุตสาหกรรมทั้งหมด ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีบริษัทผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเพิ่มขึ้นเป็น จำนวนมาก แต่การแลกเปลี่ยนข้อมูลภัยคุกคาม (ไฟล์อันตราย) ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาความปลอดภัยทางด้านไอทีทั้งหมดและแน่นอนว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวนี้จะไม่ถูกทำลายหรือไม่ทำให้เสียหาย
หลังจากที่ได้มีข่าวออกไปทางด้านนาย ใหญ่ของบริษัทแคสเปอร์สกี้ บริษัทแอนตี้ไวรัสต้นสังกัดใหญ่ก็เดือดผุด รีทวิตข้อความโตข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์สทันทีว่า “ปกติ แล้วผมไม่เคยอ่านข่าวของรอยเตอร์สเลย แต่พอผมได้อ่านครั้งแรกปุ๊บ…ผมก็ต้องเจอกับความผิดหวังกับการปราบปรามใส่ ร้ายป้ายสีบริษัทจากปากของคนอื่นทั้งนั้น และช่วยจำกันไว้เลยนะ ว่าเรื่องพวกเนี่ย มันเป็นเรื่องแหกตาทั้งเพ!” ไม่เพียงแค่ข้อความทวีตนี้เท่านั้นยังมีข้อความอื่นๆอีกที่ทาง ยูจีน แคสเปร์สกี ได้โพสต์ข้อความเหน็บแนม ผู้เผยแพร่ข่าวนี้ของสำนักข่าวรอยเตอร์สอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เห็นทีจะไม่จบ ง่ายง่ายต้องมีการขุดคุ้ยเบื้องลึกและเบื้องหลังกันต่อไป เกี่ยวกับ 2 อดีตพนักงานของแคสเปอร์สกี้และบริษัทต้นสังกัด
ที่มา : Reuters
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น