วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558

กำเนิดสปีชีส์ (On the Origin of Species)

หลายคนรู้ดีว่ามนุษย์มีพันธุกรรมร้อยละ 95 ร่วมกับลิงชิมแปนซี แต่หากปราศจากการค้นพบของนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษที่ชื่อชาร์ลส์ ดาร์วิน เราอาจไม่มีวันรู้เลยว่า แขนของมนุษย์นั้นพัฒนามาจากครีบปลา และทั้งเราและปลาเคยมีบรรพบุรุษเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่อยู่ในทะเล ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเรามีพันธุกรรมร่วมกับกะหล่ำปลีถึงร้อยละ 40 
     
ในปี ค.ศ.1859 ดาร์วินตีพิมพ์หนังสือชื่อกำเนิดสปีชีส์ (On the Origin of Species) และมันคือการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (Paradigm Shift) หรือการยกระดับความคิดครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ ในการเปลี่ยนมุมมองเรื่อง “ผู้สร้าง” มาสู่ “วิวัฒนาการ” 
     
สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้อย่างไร? จากที่เคยเชื่อกันว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีพระเจ้าเป็นผู้สร้าง และสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ ทั้งยังสมบูรณ์อย่างนี้มาตั้งแต่วันสร้างโลก ดาร์วินไม่เพียงแต่อธิบายให้รู้ว่ามนุษย์เองก็พัฒนามาจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นและถือเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ แต่การอธิบายทฤษฎีวิวัฒนาการด้วยกลไกการคัดเลือกตามธรรมชาติของเขายังได้เปิดประตูสู่พื้นที่ใหม่ให้มนุษย์ออกจากมุมมองเรื่องเหนือธรรมชาติ สู่การอธิบายสิ่งต่างๆ ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ แน่นอนว่ามันคือการเปิดพื้นที่ให้กับการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์อันไม่รู้จบด้วยเช่นกัน 

• ชาร์ลส์ โรเบิร์ต ดาร์วิน เกิดมาในครอบครัวมั่งคั่งและมีชื่อเสียงในอังกฤษ เขามีพ่อเป็นหมอและเข้าเป็นนักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ แต่พบว่ามันน่าเบื่อเกินกว่าจะเอาใจใส่ นั่นทำให้พ่อของเขาไม่พอใจและส่งเขาเข้าเรียนคณะอักษรศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เพื่อเป็นนักบวชแทน แน่นอนว่าเขาไม่สนใจเรียนอีกเช่นกัน แต่ความหลงใหลเรื่องธรรมชาติมาตั้งแต่เด็กจนโต ก็พาเขามาพบกับศาสตราจารย์ด้านพฤกษศาสตร์ จอห์น เฮนสโลว์ ที่พาเขาเข้าสู่โลกของธรรมชาติวิทยา 

• วิทยาศาสตร์ของดาร์วินต้องอ้อมไปไกลถึงเกาะกาลาปากอส ในเดือนธันวาคม ค.ศ.1831 เมื่อดาร์วินในวัย 22 ปีได้รับเชิญให้ลงเรือหลวง “บีเกิล” (HMS Beagle) ของราชนาวีอังกฤษ ที่ออกเดินทางสำรวจซีกโลกใต้เพื่อทำแผนที่และเก็บข้อมูลด้านธรรมชาติในทวีปต่างๆ  ระหว่างการเดินทางอันยาวนานถึง 5 ปีนี้ ดาร์วินได้เก็บตัวอย่างฟอสซิล สเก็ตช์ภาพ และบันทึกสิ่งที่พบเห็นทุกอย่าง จนบันทึกของเขากลายป็นงานเขียนเรื่องการเดินทางของบีเกิล (The Voyage of the Beagle) ในเวลาต่อมา 

• หมู่เกาะกาลาปากอสทางตะวันตกของเอกวาดอร์ ถือเป็นที่ที่จุดประกายความคิดเรื่องวิวัฒนาการให้กับดาร์วิน ด้วยธรรมชาติที่หลากหลายและมีลักษณะเฉพาะถึงแม้จะเป็นภูมิประเทศแห้งแล้ง เขาเริ่มจากการสังเกตนกฟินซ์ที่มีจงอยปากแตกต่างกันไปในแต่ละเกาะซึ่งมีธรรมชาติแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย และสันนิษฐานว่ามันคือการปรับตัวให้เข้ากับอาหารที่มีอยู่ในแต่ละเกาะ นั่นคือ เมล็ดพืช กระะบองเพชร และแมลง ดาร์วินคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และมันทำให้เขาเริ่มค้นหาการปรับตัวในสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น 

• เมื่อกลับมาถึงอังกฤษ เขาใช้เวลาอีกกว่า 20 ปีในการไขปริศนาไปทีละน้อย จนสรุปได้ว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีบรรพบุรุษร่วมกัน พิสูจน์ได้จากโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตที่มีอะไรคล้ายคลึงกัน เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาระมัดระวังอย่างยิ่งและไม่ผลีผลามที่จะประกาศทฤษฎีของเขาก็เพราะสถานะทางสังคม และการขัดต่อความเชื่อในยุคนั้นอย่างรุนแรง แต่เพราะความไม่ผลีผลามนี้เอง เมื่อเขานำเสนอทฤษฎีวิวัฒนาการที่มีกลไกคือการคัดสรรโดยธรรมชาติผ่านหนังสือกำเนิดสปีชีส์ มันจึงมีเหตุผลหนักแน่นเพียงพอที่จะได้รับการยอมรับในเวลาต่อมา 

• แน่นอนว่า การลุกขึ้นมาหักล้างความเชื่อทางศาสนาทำให้เขาถูกต่อต้านอย่างมาก โรเบิร์ต ฟิตซ์รอย ผู้เป็นกัปตันเรือบีเกิลถึงกับฆ่าตัวตายเพื่อแสดงความรับผิดชอบที่พาดาร์วินลงเรือไปด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทฤษฎีของดาร์วินไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับในแวดวงวิทยาศาสตร์ แต่สาธารณชนทั่วไปก็เช่นกัน 

• ใจความหลักของการคัดเลือกโดยธรรมชาติก็คือ 1) สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีความสามารถในการแพร่พันธุ์สูง 2) สิ่งมีชีวิตในสปีชีส์เดียวกันมีความแตกต่างกันอยู่ 3) เพราะอาหารมีจำนวนจำกัด สิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดีที่สุดจะมีโอกาสในการอยู่รอดและแพร่พันธุ์มากกว่า 4) พวกที่อยู่รอดจะส่งต่อลักษณะพันธุกรรมไปยังลูกหลาน 5) การเปลี่ยนแปลงทีละน้อยจะถูกสะสมจนเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่เมื่อเวลาผ่านไป โดยลักษณะพันธุกรรมที่ทำให้อยู่รอดและแพร่พันธุ์ได้จะถูกเก็บเอาไว้ 

• แม้ดาร์วินจะไม่ใช่คนแรกที่พูดเรื่องทฤษฎีวิวัฒนาการ แต่เมื่อเขานำเสนอความคิดเรื่องการคัดเลือกโดยธรรมชาติ มันก็แทบเป็นการสรุปว่าวิวัฒนาการคือคำตอบที่แท้จริง แม้ว่าเขาจะยังอธิบายไม่ได้ว่าการปรับตัวเกิดขึ้นได้อย่างไรก็ตาม  โดยสิ่งที่ช่วยให้ทฤษฎีของดาร์วินสมบูรณ์ก็คือการค้นพบความจริงเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของเกรเกอร์ เมนเดล งานของพวกเขากลายมาเป็นหลักการสำคัญของชีววิทยาสมัยใหม่ และยังเป็นพื้นฐานความคิดสำคัญจนถึงทุกวันนี้ 

• ทฤษฎีของดาร์วินไม่เพียงก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในแวดวงวิทยาศาสตร์ แต่แวดวงหนังสือ Pop Science ในปัจจุบัน ยังใช้ความคิดเรื่องการคัดเลือกโดยธรรมชาติของเขามาอธิบายความแตกต่างทั้งทางกายภาพและทางพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะความแตกต่างระหว่างหญิงและชาย เช่น ทำไมผู้ชายถึงเจ้าชู้ ทำไมนางเอกไม่รักพระรอง และทำไมเราจูบ 

• ชาร์ลส์ ดาร์วิน ได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ และทฤษฎีของเขาได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในความคิดที่ดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมี ดาร์วินโชคดีกว่ากาลิเลโอที่พูดเรื่องโลกกลมมาก เพราะทฤษฎีเปลี่ยนโลกของเขาได้รับการยอมรับในเวลาที่เขายังมีชีวิต และเมื่อจากโลกนี้ไป ศพของเขาก็ยังได้รับเกียรติให้ฝังเคียงข้างกับเซอร์ ไอแซก นิวตัน ณ มหาวิหารเวสมินเตอร์ กลางกรุงลอนดอน 

เรื่อง: กิรญา เล็กสมบูรณ์ 

ที่มา: 
บทความ Charles Darwin’s paradigm shift โดย Tim M. Berra, วารสาร The Beagle, Museums and Art Galleries of the Northern Territory, 2008 
บทความ The Evolution of Evolutionary Theory โดย Massimo Pigliucci, Philosophy Now, Aug/Sep 2015 
สื่อการสอนวิชาชีววิทยาเรื่อง "ชาร์ล ดาร์วิน คือใคร" จัดทำขึ้นโดย สพฐ. รวมกับคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
หนังสือ 500 ล้านปีของความรัก โดยนายแพทย์ชัชพล เกียรติขจรธาดา 
suriya mardeegun

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น